เรื่องราวความเดือดร้อนของเพื่อนบ้านในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งย่านพังโกล ประเทศสิงคโปร์ กลายเป็นอุทาหรณ์เตือนใจ เมื่อการกระทำที่ดูเหมือนไม่ร้ายแรงอย่างการลืมปิดเครื่องปรับอากาศก่อนเดินทางไกล กลับสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างและก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่เพื่อนบ้านหลายห้องอย่างหนัก

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับคู่รักสามีภรรยาคู่หนึ่งที่อาศัยอยู่บนชั้น 12 ของอพาร์ตเมนต์ พวกเขาได้ออกเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศเมื่อ 2 วันก่อน โดยไม่ได้ปิดเครื่องปรับอากาศ ส่งผลให้น้ำจากเครื่องปรับอากาศหยดซึมลงมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน สร้างความเสียหายแก่ห้องพักที่อยู่ติดกันและห้องพักที่อยู่ชั้นล่าง

นายจาง หนึ่งในเพื่อนบ้านที่ได้รับผลกระทบ และพักอาศัยอยู่ห้องติดกัน เล่าว่า เขาเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติเมื่อเพื่อนบ้านอีกรายที่อยู่ชั้นบน มาเคาะประตูห้องของคู่รักที่สร้างปัญหา เพื่อแจ้งว่ามีน้ำซึมออกมาจากห้องดังกล่าว เพื่อนบ้านรายนี้ไม่แน่ใจสาเหตุ จึงสงสัยว่าอาจมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นภายในห้อง นายจางจึงได้ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดหน้าประตูห้องของตนเอง และพบภาพคู่รักคู่นี้พร้อมกระเป๋าเดินทางจำนวนมาก ออกจากห้องไปเมื่อ 2 วันก่อน ทำให้เชื่อว่าพวกเขาเดินทางไปต่างประเทศ

ด้วยความกังวลว่าห้องพักของตนเองจะได้รับผลกระทบ นายจางจึงรีบตรวจสอบภายในห้อง และพบว่าผนังห้องนั่งเล่นที่ติดกับห้องของคู่รักคู่นี้ มีร่องรอยเปียกชุ่มไปด้วยน้ำ และมีหยดน้ำเกาะเต็มผนัง ไม่เพียงเท่านั้น ความชื้นยังทำให้ผนังบางส่วนเกิดเชื้อราขึ้น อีกทั้งสีผนังก็เริ่มพองและลอกล่อนออกมา นายจางและภรรยาต้องช่วยกันย้ายเฟอร์นิเจอร์ออกจากบริเวณดังกล่าวเพื่อป้องกันความเสียหาย และต้องคอยเช็ดน้ำที่ซึมออกมาวันละสองครั้ง รวมถึงนำผ้าหลายผืนมาวางเพื่อซับน้ำแล้วคอยนำไปบิดออกอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้สิ่งที่พวกเขากังวลเป็นพิเศษคือความเสี่ยงที่ปลั๊กไฟบริเวณผนังที่เปียกชุ่มจะเกิดไฟฟ้าลัดวงจร

ความเสียหายไม่ได้จำกัดอยู่เพียงห้องของนายจางเท่านั้น แต่ยังลุกลามไปถึงห้องที่อยู่ชั้นล่าง ซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำที่หยดซึมลงมาจากเพดาน ขณะที่ห้องที่อยู่ชั้นบนสุด ดูเหมือนจะได้รับผลกระทบหนักที่สุด มีน้ำขังนองเต็มพื้นห้องตลอดเวลา ตู้เสื้อผ้าได้รับความเสียหายจากความชื้นอย่างรุนแรง เจ้าของห้องชั้นบนรู้สึกกังวลอย่างยิ่งว่า หากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป กระเบื้องปูพื้นห้องอาจจะได้รับความเสียหายและหลุดล่อนได้

สามีของผู้ดูแลอาคาร ซึ่งเป็นช่างซ่อมเครื่องปรับอากาศ ได้เข้าตรวจสอบห้องที่อยู่ชั้นบน และตั้งข้อสันนิษฐานว่า สาเหตุหลักที่ทำให้น้ำรั่วซึมไม่หยุด เกิดจากเครื่องปรับอากาศในห้องชั้นล่าง (ห้องคู่รัก) ถูกเปิดใช้งานต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานเกินไป

ปัจจุบัน เพื่อนบ้านทั้ง 3 ห้องที่ได้รับความเดือดร้อนนี้ ยังคงไม่สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีอื่นใดได้ นอกจากการคอยเช็ดทำความสะอาดและซับน้ำที่ซึมออกมาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าการตัดกระแสไฟฟ้าในห้องต้นเหตุจะเป็นวิธีที่สามารถหยุดปัญหาน้ำรั่วได้ทันที แต่การกระทำดังกล่าวนั้นถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ทำให้พวกเขาทำได้เพียงรอ

ล่าสุด เจ้าของห้องที่ได้รับผลกระทบกำลังรอคอยการแสดงความรับผิดชอบและเรียกร้องค่าชดเชยความเสียหายจากคู่รักต้นเหตุ แต่จนถึงขณะนี้ พวกเขายังไม่สามารถติดต่อกับคู่รักคู่นี้ได้เลย เนื่องจากทั้งสองยังคงอยู่ระหว่างเดินทางไปต่างประเทศ ทำให้สถานการณ์ความเดือดร้อนของเพื่อนบ้านยังคงดำเนินต่อไปอย่างไร้ทางออก