พาณิชย์ ดัน ‘กก-ไหล ยกดอก’ เอกลักษณ์สกลนคร สู่ตลาดโลก ชูภูมิปัญญาดั้งเดิมผนวกนวัตกรรม

สกลนคร – นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการลงพื้นที่ล่าสุดที่จังหวัดสกลนคร เพื่อพบปะพูดคุยกับประธานและสมาชิกวิสาหกิจชุมชนสายรุ้งนาวาทอง บ้านจำปาทอง อำเภอวาริชภูมิ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการชุมชนที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าให้การส่งเสริมสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง

วิสาหกิจชุมชนสายรุ้งนาวาทองแห่งนี้ มีความโดดเด่นในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากวัตถุดิบธรรมชาติในท้องถิ่นอย่าง กก และ ไหล หัวใจสำคัญที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ไม่เหมือนใคร คือ การนำเทคนิคการเก็บลาย ‘ยกดอก’ มาประยุกต์ใช้บนผืนผ้า ทำให้เกิดลวดลายที่สวยงาม มีมิติ และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จนได้รับการยอมรับว่าเป็น ‘งานศิลป์กกไหลยกดอก’ ที่มีเพียงหนึ่งเดียวในจังหวัดสกลนคร

วิสาหกิจชุมชนสายรุ้งนาวาทอง ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2561 โดยต่อยอดจากภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ โดยได้นำวัตถุดิบในชุมชน เช่น เส้นคราม (สีธรรมชาติจากต้นคราม) และเส้นไหม มาผสมผสานและฟั่นเข้ากับเส้นไหล จากนั้นนำมาทอและใช้เทคนิคการเก็บลายยกดอกที่คิดค้นขึ้นมาใหม่ ทำให้ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ ‘ไหลไหมคราม’ มีความสวยงาม แปลกตา และร่วมสมัยมากขึ้น

ผลิตภัณฑ์ที่สร้างสรรค์ขึ้นมีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋าถือ เสื่อนั่ง เสื่อพับ หรือแม้แต่ที่นวดมือเพื่อสุขภาพ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ปัจจุบันทางวิสาหกิจชุมชนยังคงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้มีความทันสมัยและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม กล่าวว่า จากการหารือกับนายมนตรี เย็นวัฒนา ประธาน และสมาชิกวิสาหกิจชุมชนสายรุ้งนาวาทอง พบว่า วิสาหกิจฯ มีความเข้มแข็ง สามารถสร้างงาน สร้างรายได้ให้คนในพื้นที่ได้อย่างดีเยี่ยม แต่ละปีสามารถสร้างรายได้เข้าสู่ชุมชนได้กว่า 1 ล้านบาท และผลิตผลิตภัณฑ์ได้มากกว่า 3,000 ชิ้นต่อปี

สิ่งที่ทางวิสาหกิจชุมชนต้องการการสนับสนุนจากภาครัฐ คือ การช่วยขยายช่องทางการตลาดให้มีความหลากหลายและเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มใหม่ๆ มากขึ้น เช่น การผลักดันให้เข้าร่วมงานแสดงสินค้าหรือออกบูธในกิจกรรมต่างๆ ที่กระทรวงพาณิชย์หรือกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจัดขึ้น รวมถึงการสนับสนุนด้านการตลาดออนไลน์เพื่อเจาะตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ และการขยายช่องทางการจำหน่ายในประเทศตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เช่น สนามบิน ร้านขายของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว และศูนย์การค้าชั้นนำ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเผยแพร่และจำหน่ายสินค้าให้แก่นักท่องเที่ยวและผู้สนใจ ซึ่งปัจจุบันวิสาหกิจชุมชนฯ มีช่องทางการจำหน่ายหลักผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook : ไหล-ไหม-คราม และ Instagram: @nawatong6 รวมถึงผ่านตัวแทนจำหน่ายที่ร้าน SACICT Shop และการออกร้านตามงานอีเวนต์ต่างๆ

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เล็งเห็นถึงศักยภาพ จึงได้เตรียมจัดอบรมหลักสูตรที่จำเป็นเพื่อยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการและกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดสกลนคร โดยเฉพาะด้านการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการธุรกิจ และการขยายช่องทางการตลาดผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างมืออาชีพ

ที่สำคัญ กรมฯ มีแผนผลักดันให้วิสาหกิจชุมชนสายรุ้งนาวาทอง เข้าร่วมโครงการ ‘Digital Village BCG ชุมชนออนไลน์ นวัตกรรมรักษ์โลก’ ซึ่งเป็นโครงการเรือธงของกรมฯ ที่จะช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นมีความเข้มแข็งในการทำการตลาดออนไลน์มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ กรมฯ ยังพร้อมประสานความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อบูรณาการการสนับสนุน และอำนวยความสะดวกให้ธุรกิจชุมชนสามารถดำเนินงานได้อย่างราบรื่น มีศักยภาพเพิ่มขึ้น และขยายโอกาสแห่งความสำเร็จ โดยมีภาครัฐเป็นแรงสนับสนุนอยู่เบื้องหลังอย่างเต็มที่ นางอรมน กล่าวทิ้งท้าย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *