กรุงเทพฯ – วันนี้ (7 พฤษภาคม 2568) นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 4/2568 ซึ่งมีนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายนโยบายสำคัญให้กระทรวงพาณิชย์เร่งดำเนินการในหลายด้าน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน

ประเด็นเร่งด่วนที่นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำคือ การแก้ปัญหาสินค้าเกษตรตกต่ำ โดยเฉพาะราคาผลไม้ โดยได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศประสานงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานราชการและภาคเอกชนในพื้นที่ เพื่อร่วมกันเร่งระบายผลผลิตออกจากแหล่งผลิตให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพที่สุด

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์หามาตรการรับมือผลกระทบจากการขึ้นภาษีของสหรัฐอเมริกา โดยให้เดินหน้าขยายความตกลงการค้าเสรี (FTA) เพื่อสร้างแต้มต่อและประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศ กระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมความพร้อมในเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง และได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานนโยบายการค้าสหรัฐฯ โดยมีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน เพื่อดำเนินงานเชิงรุก วิเคราะห์สถานการณ์ และจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายแบบองค์รวม

ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา คณะผู้แทนไทยจากกระทรวงพาณิชย์ได้เดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา เพื่อหารือกับภาครัฐและเอกชนของสหรัฐฯ ทำความเข้าใจร่วมกัน รับฟังปัญหา และชี้แจงจุดยืนของไทย นอกจากนี้ ยังได้บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงหารือกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 ฝ่าย (กกร.) เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะและวางท่าทีร่วมกันในการเจรจา

ในการประชุมครั้งนี้ ได้มีการขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเร่งพิจารณาแนวทางการแก้ไขอุปสรรคทางการค้า ส่งเสริมการนำเข้าสินค้าจำเป็น และสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยขยายการลงทุนในสหรัฐฯ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจในระยะยาว

นายวุฒิไกร กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงพาณิชย์ได้รายงานต่อนายกรัฐมนตรีถึงแนวทางในการพัฒนากลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยจะนำระบบดิจิทัลมาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เตรียมเปิดตัวแอปพลิเคชัน ‘MOC Go’ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานะผู้ประกอบการได้แบบเรียลไทม์ เชื่อมโยงข้อมูลจับคู่ทางการค้าระหว่างผู้ประกอบการไทยกับตลาดต่างประเทศได้อย่างรวดเร็ว ผ่านระบบ Generative AI ที่วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกและช่วยในการตัดสินใจ แอปพลิเคชันนี้ยังจะช่วยติดตามการทำงานของพาณิชย์จังหวัดและทูตพาณิชย์ เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าสินค้าเกษตรของไทยทั้งในและต่างประเทศ

นอกจาก MOC Go แล้ว ยังมีแผนเปิดตัว ‘Super App’ ที่จะรวบรวมบริการทั้งหมดของกระทรวงพาณิชย์ไว้ในที่เดียว เพื่อความสะดวก รวดเร็ว และลดขั้นตอนให้กับผู้ประกอบการ ถือเป็นการยกระดับการให้บริการภาครัฐ (e-Government)

ปลัดกระทรวงพาณิชย์ย้ำว่า การที่ประเทศไทยจะหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางได้ ทุกหน่วยงานต้องร่วมกันผลักดัน 2 นโยบายหลัก คือ ครีเอชั่น (Creation) เน้นสินค้าที่เกิดจากการสร้างสรรค์ เช่น สินค้า GI (Geographical Indication) เพื่อเพิ่มมูลค่า และ อิโนเวชั่น (Innovation) พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้าและรายได้ให้ชุมชนอย่างยั่งยืน

ในส่วนของสถานการณ์การส่งออก กระทรวงพาณิชย์ได้รายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบว่า การส่งออกไทยในช่วงปี 2567-2568 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเดือนมีนาคม 2568 มีมูลค่าส่งออกสูงถึง 29,548 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นระดับสูงสุดในประวัติการณ์ ขยายตัว 17.8% และเป็นการขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 9 ภาพรวมปี 2567 การส่งออกมูลค่า 300,529 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 5.4% และช่วงไตรมาสแรกปี 2568 (มกราคม–มีนาคม) มูลค่า 81,532 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 15.2% ส่งผลให้ไตรมาสแรกเกินดุลการค้า 1,081 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,705 ล้านบาท