รมว.พาณิชย์ “พิชัย” รับลูกนายกฯ สั่งเร่ง 7 มาตรการ ดันส่งออกผลไม้ทั่วโลก-ลุยปราบ “นอมินี” เข้ม

รมว.พาณิชย์ “พิชัย” รับลูกนายกฯ สั่งเร่ง 7 มาตรการ ดันส่งออกผลไม้ทั่วโลก-ลุยปราบ “นอมินี” เข้ม

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์เร่งขับเคลื่อนนโยบายสำคัญตามข้อสั่งการของ นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ซึ่งได้เน้นย้ำในที่ประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง ให้ส่งเสริมและผลักดันสินค้าเกษตรไทย โดยเฉพาะผลไม้ เพื่อแก้ไขปัญหาสินค้าล้นตลาด และเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรสูงสุด

เพื่อตอบรับนโยบายดังกล่าว กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำ 7 มาตรการ 25 แผนงาน ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่ ตั้งแต่การผลิต การตลาด การส่งออก การแปรรูป และการอำนวยความสะดวกทางการค้า โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ การระบายผลไม้ปริมาณ 950,000 ตัน ไปยังตลาดทั้งในและต่างประเทศ

ควบคู่กับการผลักดันการส่งออก กรมการค้าภายในได้รับมอบหมายให้รณรงค์ส่งเสริมการบริโภคผลไม้ภายในประเทศอย่างเข้มข้น โดยร่วมกับห้างค้าปลีกชั้นนำ เช่น สยามพารากอน, เซ็นทรัล, เดอะมอลล์, และห้างในเครือซีพีแอ็กซ์ตร้า จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายตั้งแต่ต้นฤดูกาล เพื่อช่วยเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผลไม้ให้เกษตรกรได้โดยตรง

นอกจากนี้ เพื่อลดภาระต้นทุนการผลิตของเกษตรกร กรมการค้าภายในได้จับมือกับ 3 สมาคมปุ๋ยยักษ์ใหญ่ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินหน้า โครงการนำปุ๋ยคุณภาพดีมาลดราคา สูงสุด 50 บาทต่อกระสอบ ครอบคลุมพืชทุกชนิดกว่า 79 สูตร ปริมาณรวมกว่า 10.06 ล้านกระสอบ จาก 26 ผู้ประกอบการทั่วประเทศ โดยโครงการนี้เริ่มดำเนินการแล้วและจะยาวไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2568

ในส่วนของการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) รมว.พาณิชย์ เร่งเดินหน้าการเจรจากับ สหภาพยุโรป (EU), เกาหลีใต้, และอาเซียน-แคนาดา โดยตั้งเป้าหมายที่จะสรุปให้แล้วเสร็จภายในปี 2568 ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศไทยมีข้อตกลงทางการค้ากับกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ช่วยเสริมสร้างความได้เปรียบให้ผู้ส่งออกและนักลงทุนไทยในการขยายตลาด

ผลลัพธ์ของการใช้ประโยชน์จาก FTA เริ่มปรากฏให้เห็นชัดเจน โดยในเดือน มีนาคม 2568 ตัวเลขการส่งออกของไทยขยายตัวสูงถึง 17.8% คิดเป็นมูลค่า 29,548.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และส่งผลให้ยอดส่งออกใน ไตรมาสแรก ของปี 2568 เติบโตถึง 15.2% รวมมูลค่า 81,532.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

การลงนามข้อตกลง FTA กับ สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (EFTA) เมื่อเดือนมกราคม 2568 ซึ่งประกอบด้วยประเทศที่มีกำลังซื้อสูงอย่าง สวิตเซอร์แลนด์, นอร์เวย์, ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่ส่งสัญญาณบวกต่อโอกาสทางการค้า โดยเฉพาะการส่งออกของไทยไปยัง สวิตเซอร์แลนด์ ที่ขยายตัวอย่างน่าจับตา เดือนมกราคมเติบโต 852%, กุมภาพันธ์ 235%, และมีนาคม 497%

นอกจากภารกิจด้านการส่งออกแล้ว นายพิชัยยังเน้นย้ำถึงการปราบปรามการกระทำผิดทางการค้าต่างๆ ทั้งการป้องกัน การสวมสิทธิ์สินค้าไทยส่งออก โดยอยู่ระหว่างรวบรวมรายชื่อบริษัทต่างชาติที่อาจใช้ไทยเป็นฐานหลีกเลี่ยงภาษี และตรวจสอบ 65 กลุ่มสินค้าเสี่ยง พร้อมประสานงานอย่างใกล้ชิดกับศุลกากรสหรัฐฯ

การแก้ไขปัญหา สินค้าต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมายในไทย ก็ดำเนินการอย่างเข้มงวด ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ได้ดำเนินคดีไปแล้วกว่า 32,394 คดี คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 1,454 ล้านบาท และสามารถจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับสินค้านำเข้ามูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท ได้รวม 1,796 ล้านบาท รวมถึงสั่งถอดสินค้าผิดกฎหมายออกจากแพลตฟอร์มออนไลน์ไปแล้วกว่า 9,043 รายการ

ส่วนการปราบปราม ธุรกิจนอมินี ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงทางการค้าของประเทศ กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินคดีอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2567 ถึง 31 มีนาคม 2568 ดำเนินการกับผู้กระทำความผิดไปแล้ว 852 ราย มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 15,188 ล้านบาท และในปี 2568 นี้ มีแผนจะตรวจสอบนิติบุคคลเป้าหมายรวมกว่า 46,918 ราย

“กระทรวงพาณิชย์ได้ขับเคลื่อนทุกภารกิจเต็มที่ตามข้อสั่งการของท่านนายกรัฐมนตรี ทั้งเรื่องการระบายผลไม้ การใช้ประโยชน์จาก FTA การปรับโฉมร้าน Thai Select ไปจนถึงการแก้ไขปัญหาการสวมสิทธิ์สินค้า และการปราบปรามนอมินี ผมขอให้ทุกหน่วยงานเร่งเดินหน้าเต็มที่ เพื่อประโยชน์ของพี่น้องคนไทยทุกคน” นายพิชัยกล่าวสรุป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *