กรุงเทพฯ – จากสถานการณ์ราคาทองคำที่มีความผันผวนและปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบร้านค้าทองคำ เพื่อสร้างความมั่นใจและคุ้มครองผู้บริโภค โดยเน้นย้ำให้ประชาชนผู้ซื้อขายทองคำให้ความสำคัญกับการตรวจสอบป้ายแสดงราคาและเครื่องชั่งน้ำหนักทองคำว่าเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดหรือไม่ ก่อนตัดสินใจทำธุรกรรม

นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของกรมการค้าภายในได้เข้าทำการตรวจเยี่ยมและตรวจสอบร้านค้าทองคำในย่านสะพานควาย ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีการซื้อขายทองคำจำนวนมาก การตรวจสอบครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งในเรื่องของการแสดงราคาและการใช้เครื่องชั่งที่เที่ยงตรงและได้มาตรฐาน

อธิบดีกรมการค้าภายในเน้นย้ำว่า ในช่วงที่ราคาทองคำมีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว การชั่งน้ำหนักทองคำอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากแม้การเบี่ยงเบนน้ำหนักเพียงเล็กน้อยก็อาจส่งผลให้ผู้ซื้อหรือผู้ขายเสียประโยชน์ทางการเงินเป็นจำนวนมากได้

ดังนั้น กรมการค้าภายในจึงขอแนะนำให้ประชาชนผู้บริโภคสังเกตและตรวจสอบเครื่องชั่งทองคำทุกครั้งก่อนทำการซื้อขาย โดยเครื่องชั่งที่ผ่านการตรวจสอบและรับรองจากกรมการค้าภายใน จะต้องมีสติกเกอร์แสดงการตรวจสอบและให้คำรับรองติดไว้ในจุดที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ ยังแนะนำให้ตรวจสอบว่าร้านค้ามีการแสดงราคาทองคำทั้งราคาขายและราคารับซื้อแบบรายวัน ซึ่งอัปเดตตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ หรือราคาตลาด ณ วันนั้นๆ อย่างถูกต้องและชัดเจนหรือไม่

นายวิทยากรกล่าวเพิ่มเติมว่า หากประชาชนพบเห็นร้านค้าทองคำใดไม่มีการติดป้ายแสดงราคาอย่างชัดเจน ใช้เครื่องชั่งที่ไม่มีสติกเกอร์รับรอง หรือพบความผิดปกติอื่นใดที่อาจเข้าข่ายการเอาเปรียบผู้บริโภค สามารถแจ้งเบาะแสได้ทันทีผ่านช่องทางต่างๆ ของกรมการค้าภายใน ได้แก่ สายด่วนกรมการค้าภายใน โทร. 1569 หรือผ่านแอปพลิเคชันไลน์ @MR.DIT รวมถึงสามารถแจ้งได้ที่ศูนย์ชั่งตวงวัดและสำนักงานสาขาชั่งตวงวัดทั่วประเทศ

ในส่วนของผู้ประกอบการร้านทอง อธิบดีกรมการค้าภายในได้ขอความร่วมมือให้ปิดป้ายแสดงราคารับซื้อและราคาขายทองคำให้ชัดเจนและเป็นปัจจุบัน รวมถึงการใช้เครื่องชั่งที่ได้รับการตรวจสอบและให้คำรับรองตามกฎหมายอย่างถูกต้อง โดยหากร้านค้าใดไม่ปิดป้ายแสดงราคา อาจมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และหากผู้ขายรายใดใช้เครื่องชั่งที่ไม่ถูกต้อง และมีเจตนาที่จะชั่งน้ำหนักทองคำให้ขาดหายไปจากความเป็นจริง จะมีโทษตามกฎหมาย คือ จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายวิทยากรย้ำในตอนท้ายว่า การที่ผู้บริโภครู้เท่าทันและตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นก่อนตัดสินใจซื้อขายทองคำ ไม่เพียงแต่เป็นการป้องกันสิทธิ์ของตนเอง แต่ยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดการค้าที่เป็นธรรมในตลาด ซึ่งกรมการค้าภายในขอยืนยันว่าจะเดินหน้าเข้าตรวจสอบร้านค้าทองคำทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของผู้บริโภคตามนโยบายของ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อย่างเคร่งครัด.