ขอนแก่น – แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง ยืนยันสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่รับผิดชอบยังคงเป็นปกติ ไม่มีความเปลี่ยนแปลงหรือเหตุรุนแรงเกิดขึ้น พร้อมปฏิเสธกระแสข่าวความขัดแย้งกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายภูมิธรรม เวชยชัย ชี้แจงคำสั่งถอนกำลังทหารจากจุดเสี่ยงปะทะ เป็นไปเพื่อลดความตึงเครียดและปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา ย้ำใช้หลักสันติวิธีเป็นสำคัญ และขอให้ประชาชนอย่าสร้างความแตกแยกในสังคมออนไลน์ที่อาจกระทบเศรษฐกิจชายแดน

เมื่อเวลา 16.30 น. ของวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ที่จังหวัดขอนแก่น พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยยืนยันว่า ปัจจุบันสถานการณ์ยังคงเป็นปกติ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ และมีการพูดคุยประสานงานกับทหารกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ที่ผ่านมา

แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงสถานการณ์บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นอีกจุดที่ได้รับความสนใจ โดยระบุว่า สถานการณ์ยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มีการตรึงกำลังทหารตามปกติ แต่ในบางจุดที่เป็นพื้นที่ล่อแหลมและยังไม่ชัดเจนเรื่องการปักปันเขตแดนนั้น ผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้มีคำสั่งให้ถอนกำลังทหารออกมาก่อน เพื่อกลับไปอยู่ที่ตั้งปกติ การดำเนินการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อลดความตึงเครียด ลดโอกาสการปะทะ และป้องกันความเข้าใจผิดระหว่างกัน ซึ่งได้มีการปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าวอย่างเคร่งครัด

สำหรับกระแสข่าวที่สื่อหลายสำนักวิพากษ์วิจารณ์ว่า ตนเองมีความขัดแย้งกับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ยืนยันอย่างหนักแน่นว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ไม่มีข้อขัดแย้งเกิดขึ้น และมีการพบปะพูดคุยกันอยู่ตลอด ล่าสุดได้พบกันที่จังหวัดนครพนม ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่ทุกอย่างเป็นไปตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเองก็แสดงความเป็นห่วงเป็นใยทหารตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาเช่นเดียวกัน

พล.ท.บุญสิน กล่าวต่อไปว่า การตรึงกำลังตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาเป็นเรื่องปกติ ทั้งฝั่งไทยและฝั่งกัมพูชาก็มีที่ตั้งของตนเอง เพื่อร่วมกันดูแลความเรียบร้อย มีการลาดตระเวนร่วมกันทั้งสองฝ่าย ส่วนข่าวที่ปรากฏในโซเชียลมีเดียว่า ฝั่งกัมพูชามีการตรึงกำลังเพิ่มขึ้นนั้น ก็เป็นเรื่องปกติของการปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน เหตุการณ์โดยรวมยังคงปกติ มีการตรวจเยี่ยมหน่วยของทั้งผู้บังคับบัญชาทั้งสองฝ่าย ปัจจุบันยังไม่มีเหตุการณ์รุนแรง ต่างฝ่ายต่างรักษาอธิปไตยของตนเอง โดยผู้บังคับบัญชาเน้นย้ำให้ใช้หลักสันติวิธีเป็นหลัก ซึ่งทหารทุกนายได้ปฏิบัติตามแนวทางนี้อย่างเคร่งครัด

แม่ทัพภาคที่ 2 ยังได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่ศาลาตรีมุข อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งถูกไฟไหม้เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยระบุว่า ทางการกัมพูชาได้ยืนยันว่าเป็นอุบัติเหตุ ซึ่งจุดดังกล่าวเป็นเพียงจุดที่ใช้ลาดตระเวน ไม่ได้มีทหารประจำอยู่ถาวร นานๆ ครั้งจึงจะมีทหารของ 3 ประเทศ (ไทย กัมพูชา ลาว) มาพบกันที่จุดนี้ และทางการกัมพูชาได้แสดงการขอโทษต่อประเทศไทยแล้ว ด้านการสืบสวนของทางการไทยก็ยืนยันเช่นเดียวกันว่า เป็นอุบัติเหตุ

ในตอนท้าย พล.ท.บุญสิน ได้ฝากข้อความถึงพี่น้องประชาชนชาวไทยที่เคลื่อนไหวแสดงความคิดเห็นในโซเชียลมีเดีย โดยขอให้แสดงความคิดเห็นในทางที่ส่งเสริมความรักความสามัคคี อย่าให้เกิดความแตกแยก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจตามแนวชายแดนได้ พร้อมแสดงความเข้าใจในความรู้สึกรักชาติของคนไทยทุกคน และยืนยันว่า ตนเองและทหารไทยทุกนายพร้อมปฏิบัติหน้าที่ดูแลอธิปไตยของชาติอย่างเต็มที่ถึงที่สุด