ออกหมายจับ ‘พันเอก’ เจ้าของเว็บพนัน หลังหนีซุกรถหรูในค่ายทหาร ยึดทรัพย์ 10 ล้าน
นครปฐม – เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม นำกำลังเข้าทลายเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ ยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท พร้อมจับกุมผู้ดูแลระบบได้ 6 คน แต่เจ้าของเว็บรายหนึ่ง ซึ่งมีรายงานว่าเป็นทหารยศ ‘พันเอก’ ไหวตัวทันและหลบหนีไป พร้อมนำรถยนต์หรูหลายคันไปซ่อนไว้ในค่ายทหาร ขณะนี้ศาลได้อนุมัติหมายจับแล้ว อยู่ระหว่างติดตามตัว
เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 พล.ต.ต.พงศ์พันธ์ วงษ์มณีเทศ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดนครปฐม เข้าตรวจค้นเป้าหมาย 3 จุด ในพื้นที่จังหวัดนครปฐมและจังหวัดชลบุรี เพื่อกวาดล้างเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์
จุดตรวจค้นประกอบด้วย บ้านพัก 2 แห่งในอำเภอเมืองและอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม และห้องพักกับบ้านพักในอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
จากการตรวจค้น เจ้าหน้าที่สามารถยึดของกลางได้จำนวนมาก รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท อาทิ คอมพิวเตอร์ 4 เครื่อง, โน้ตบุ๊ก 4 เครื่อง, เราเตอร์กระจายสัญญาณ 5 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือ 22 เครื่อง, ไอแพด 1 เครื่อง, สมุดบัญชีธนาคาร 17 เล่ม, บัตรเอทีเอ็ม 12 ใบ, รถจักรยานยนต์ 4 คัน, รถกระบะ 1 คัน และรถยนต์หรูยี่ห้อ Ford Mustang 1 คัน นอกจากนี้ยังพบอาวุธปืนสั้นขนาด 9 มม. ยี่ห้อเบเร็ตตา พร้อมเครื่องกระสุน 40 นัด
เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาซึ่งทำหน้าที่เป็นแอดมินดูแลระบบของเว็บพนันได้ 6 คน เป็นชาย 6 คน (ข้อมูลต้นฉบับแจ้ง ชาย 6 หญิง 1 แต่ระบุจับได้ 6 คน จึงยึดตามจำนวนที่จับได้) ในระหว่างการเข้าตรวจค้นครั้งนี้ ผู้ต้องหาอีกรายหนึ่ง ซึ่งมีรายงานว่าเป็นหนึ่งในเจ้าของเว็บพนัน และมีตำแหน่งเป็น ‘ทหารยศพันเอก’ ได้ไหวตัวทันและหลบหนีไปได้
แหล่งข่าวระบุว่า พันเอกคนดังกล่าวได้นำรถยนต์หรูอีกหลายคัน ซึ่งเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินที่ได้จากการทำเว็บพนัน ไปจอดซ่อนไว้ในพื้นที่ของค่ายทหารแห่งหนึ่ง
พล.ต.ต.พงศ์พันธ์ เปิดเผยว่า การเข้าทลายเครือข่ายครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้รับข้อมูลจากสายลับว่า มีการตั้งเซิร์ฟเวอร์และดำเนินการเว็บพนันออนไลน์ชื่อ pananthai.com และ play.surinam888.com ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม โดยมีนายกรกฎ และ น.ส.ศศิพร เป็นหนึ่งในผู้เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน จากนั้นจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับและหมายค้น
ขณะนี้ ศาลได้อนุมัติหมายจับสำหรับทหารยศพันเอกรายดังกล่าวแล้ว เจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการและทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องต่อไป.