ไขความจริง ดื่มน้ำเย็นอันตรายต่อความดันจริงหรือ? หมอผ่าตัดสมอง ‘หมอประชา’ ทดสอบเอง ตอบชัด หลังพบเคสคนไข้สงกรานต์
กรุงเทพฯ – ประเด็นเกี่ยวกับอันตรายจากการดื่มน้ำเย็น โดยเฉพาะในช่วงอากาศร้อน หรือหลังกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายเสียเหงื่อ ยังคงเป็นที่ถกเถียงในสังคม ล่าสุด นายแพทย์ประชา กัญญาประสิทธิ์ ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบบประสาท โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม ได้ออกมาชี้แจงและทำการทดสอบด้วยตนเอง เพื่อคลายความสงสัยว่า การดื่มน้ำเย็นสามารถทำให้ความดันโลหิตพุ่งสูงขึ้นจนถึงขั้นเส้นเลือดในสมองแตกได้จริงหรือไม่ หลังจากที่ได้พบเคสผู้ป่วยรายหนึ่ง
นพ.ประชา กัญญาประสิทธิ์ ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘หมอประชาผ่าตัดสมอง’ โดยอ้างถึงกรณีศึกษาของผู้ป่วยชายอายุ 52 ปี ซึ่งมีประวัติเกิดภาวะเส้นเลือดในสมองแตกอย่างกะทันหัน ขณะกำลังท่องเที่ยวและร่วมเล่นน้ำสงกรานต์ที่จังหวัดเชียงใหม่ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงบ่ายวันหนึ่ง ผู้ป่วยรายนี้มีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรงและเริ่มมีอาการอ่อนแรงที่แขนขาซีกซ้าย ภายหลังการดื่มน้ำเย็น การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองยืนยันว่ามีภาวะเส้นเลือดในสมองแตกเกิดขึ้น และเมื่อวัดความดันโลหิตพบว่าพุ่งสูงเกือบถึง 180 มิลลิเมตรปรอท
จากกรณีดังกล่าว ซึ่งสร้างความกังวลและตั้งคำถามว่า น้ำเย็นเป็นสาเหตุหลักหรือไม่ นพ.ประชาจึงตัดสินใจทำการทดสอบด้วยตัวเองเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง โดยก่อนเริ่มการทดสอบ ท่านได้ทำการวัดความดันโลหิตพื้นฐานของตนเอง จากนั้นจึงเริ่มดื่มน้ำเย็นปริมาณรวม 800 ซีซี หรือเทียบเท่ากับ 4 แก้วอย่างรวดเร็ว ผลลัพธ์ที่ได้จากการวัดความดันโลหิตหลังดื่มน้ำเย็นกลับพบว่า ค่าความดันโลหิตของ นพ.ประชา ไม่ได้พุ่งสูงขึ้นในระดับที่น่าเป็นอันตราย หรืออยู่ในระดับที่สามารถทำให้เส้นเลือดสมองแตกได้
นพ.ประชาได้อธิบายถึงกลไกของร่างกายที่เกี่ยวข้องกับอุณหภูมิ โดยระบุว่า การดื่มน้ำเย็นเข้าไปในร่างกายนั้น ระบบทางเดินอาหารจะค่อยๆ ปรับอุณหภูมิของน้ำก่อนที่จะดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งกระบวนการนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการหดตัวของหลอดเลือดทั่วร่างกายในลักษณะที่จะทำให้ความดันโลหิตพุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในคนที่มีสุขภาพปกติ
ในทางตรงกันข้าม นพ.ประชาได้เปรียบเทียบกับการอาบน้ำเย็น หรือการที่ร่างกายสัมผัสกับความเย็นจัดในบริเวณกว้าง โดยเฉพาะการราดน้ำเย็นท่วมตัว ซึ่งเป็นกิจกรรมที่นิยมทำในช่วงสงกรานต์ ท่านอธิบายว่า ผิวหนังของคนเรามีหลอดเลือดฝอยจำนวนมาก การสัมผัสกับความเย็นจัดอย่างรวดเร็วจะทำให้หลอดเลือดบริเวณผิวหนังเกิดการหดตัวอย่างรวดเร็ว (Vasoconstriction) เพื่อรักษาอุณหภูมิร่างกาย การหดตัวของหลอดเลือดนี้ส่งผลให้เลือดที่เคยกระจายไปตามผิวหนังถูกบีบกลับเข้าสู่หลอดเลือดใหญ่และหัวใจในปริมาณมากขึ้นและรวดเร็ว ทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของปริมาตรเลือดในระบบไหลเวียนส่วนกลาง ส่งผลให้ความดันโลหิตสูงขึ้นได้อย่างชัดเจน ซึ่งแตกต่างจากการดื่มน้ำเย็น
จากผลการทดสอบและคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ นพ.ประชาจึงสรุปอย่างชัดเจนว่า การดื่มน้ำเย็นไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้ความดันโลหิตพุ่งสูงขึ้นในคนที่มีสุขภาพร่างกายปกติ และไม่ได้เป็นอันตรายต่อหลอดเลือดสมองสำหรับคนกลุ่มนี้ ในทางตรงกันข้าม การดื่มน้ำเย็นอาจช่วยให้รู้สึกสดชื่นขึ้นได้
ส่วนกรณีของผู้ป่วยชายวัย 52 ปีที่ประสบเหตุการณ์เส้นเลือดในสมองแตกหลังดื่มน้ำเย็นนั้น นพ.ประชาชี้แจงว่า สาเหตุที่แท้จริงน่าจะมาจากภาวะความดันโลหิตสูงที่เป็นอยู่เดิม และผู้ป่วยอาจไม่ได้ควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติอยู่แล้ว ในกรณีเช่นนี้ การเปลี่ยนแปลงใดๆ ก็ตาม แม้แต่เพียงเล็กน้อย อาจเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้ น้ำเย็นจึงอาจเป็นเพียงตัวกระตุ้นในสถานการณ์ที่ผู้ป่วยมีความเสี่ยงสูงอยู่ก่อนแล้ว ไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทำให้ความดันพุ่งในคนปกติ
ท่านได้เน้นย้ำว่า สำหรับผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ยังไม่สามารถควบคุมความดันให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยได้ ควรระมัดระวังปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่อาจกระตุ้นให้ความดันโลหิตสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงการสัมผัสความเย็นจัด และควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำในการดูแลตนเองอย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตาม สำหรับประชาชนทั่วไปที่มีสุขภาพแข็งแรงและไม่มีโรคประจำตัว โดยเฉพาะภาวะความดันโลหิตสูง สามารถดื่มน้ำเย็นได้อย่างปลอดภัยและไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นสาเหตุของภาวะเส้นเลือดในสมองแตก
ในส่วนของผู้ป่วยที่ท่านได้กล่าวถึง แม้จะประสบเหตุการณ์ร้ายแรง แต่ภายหลังจากการรักษา ผู้ป่วยรายดังกล่าวก็มีอาการดีขึ้น สามารถกลับมาเดินและยกแขนขาซีกซ้ายได้ใกล้เคียงปกติ แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการรักษาที่ทันท่วงทีและความก้าวหน้าทางการแพทย์