CKPower กำไรพุ่ง 305 ล้านบาท ไตรมาส 1/68 ผลงานแกร่งจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 – ไซยะบุรี
กรุงเทพฯ, 12 พฤษภาคม 2568 – บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKPower (ชื่อย่อในตลาดหลักทรัพย์ฯ: CKP) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2568 ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน (Core Net Profit) จำนวน 63 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 305 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่รับรู้ผลขาดทุนจากการดำเนินงาน 242 ล้านบาท สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจพลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลักสองแห่ง
นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ CKPower กล่าวว่า ผลประกอบการที่โดดเด่นในไตรมาสแรกของปีนี้ เป็นผลมาจากประสิทธิภาพการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี โดยมีกำไรก่อนค่าใช้จ่ายทางการเงิน ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย รวมส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้าและบริษัทร่วม (EBITDA + Share of Profits) สูงถึง 991 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 139 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนผลกำไร มาจากรายได้การขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 เนื่องจากปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำในช่วงต้นปี 2568 ที่มากกว่าปีก่อน ส่งผลให้โรงไฟฟ้าสามารถประกาศความพร้อมจ่ายไฟฟ้า (Availability Factor) ได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 7
นอกจากนี้ CKPower ยังรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี ลดลงอย่างมีนัยสำคัญถึง 563 ล้านบาท เหลือเพียง 7 ล้านบาท หรือขาดทุนลดลงถึงร้อยละ 99 ปัจจัยสนับสนุนคือปริมาณน้ำที่ไหลผ่านโรงไฟฟ้าไซยะบุรีที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 41 เมื่อเทียบกับปีก่อน ทำให้ปริมาณการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 34
นายธนวัฒน์ เสริมว่า ในช่วงเดือนมกราคมถึงพฤษภาคม ปี 2568 โรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 สามารถประกาศความพร้อมจ่ายไฟฟ้าได้มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณร้อยละ 3 และปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2568 อยู่ในระดับ 363 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งสูงกว่าปีก่อน ส่วนปริมาณน้ำไหลเข้าโรงไฟฟ้าทั้งสองแห่งในช่วงครึ่งปีแรกคาดว่าจะใกล้เคียงค่าเฉลี่ย และจะมีการประเมินสถานการณ์น้ำอีกครั้งในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม
สำหรับความคืบหน้าของโครงการลงทุนใหม่ โครงการไฟฟ้าพลังน้ำ หลวงพระบาง มีความคืบหน้าการก่อสร้าง ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2568 อยู่ที่ร้อยละ 48 ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ขณะที่โครงการไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ เพื่อจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ในระยะแรกจำนวน 3 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 7.0 เมกะวัตต์ มีความคืบหน้าการก่อสร้างอยู่ที่ร้อยละ 86 ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2568 และเป็นไปตามแผน โดยโครงการแรกได้เริ่มผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้วเมื่อปลายเดือนธันวาคม 2567 และคาดว่าจะทยอยแล้วเสร็จครบทุกโครงการภายในไตรมาส 2 ปี 2568 นี้
นายธนวัฒน์ ย้ำถึงก้าวต่อไปของ CKPower ว่า บริษัทฯ มีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนการผลิตพลังงานจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน ทั้งพลังงานน้ำและพลังงานแสงอาทิตย์ ควบคู่ไปกับการสร้างโอกาสใหม่ๆ ด้านการเงินสีเขียว (Green Finance) เช่น การใช้กลไกการขายใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน (RECs)
ในปี 2567 ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัท CKPower ได้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนส่งให้ประเทศไทยกว่า 8.8 ล้านเมกะวัตต์ชั่วโมง (MWh) คิดเป็นร้อยละ 16 ของไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทั้งหมดที่ใช้ในประเทศ และมีส่วนช่วยหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 4.4 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน และบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี 2593 อย่างเป็นรูปธรรม.