สยอง! ซ่อมถนนไร้ไฟเตือน กระบะเสยแบริเออร์ ก่อนพุ่งอัดรถตู้ บาดเจ็บนับสิบชีวิต เผยจุดนี้เคยเกิดเหตุแล้ว 10 ครั้ง

ชุมพร – เกิดอุบัติเหตุสลดบนถนนสายเอเชีย 41 ช่วงซ่อมบำรุง รถกระบะมองไม่เห็นแท่นปูนแบริเออร์ที่วางกั้น พุ่งชนอย่างแรงก่อนเสียหลักไปชนประสานงากับรถตู้โดยสารที่วิ่งสวนทางมา ทำให้รถทั้งสองคันพังยับเยิน มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวมนับสิบราย เผยบริเวณนี้เคยเกิดอุบัติเหตุในลักษณะเดียวกันมาแล้วหลายครั้ง เนื่องจากผู้รับเหมาซ่อมถนนติดตั้งไฟเตือนไม่เพียงพอ

เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 ร.ต.ท.วิมล แก้วชู รองสารวัตร(ป.) สถานีตำรวจทางหลวงชุมพร ได้รับแจ้งเหตุรถกระบะชนกับรถยนต์ตู้โดยสาร บนถนนสายเอเชีย 41 กิโลเมตรที่ 3 ฝั่งขาขึ้น บริเวณหมู่ที่ 1 ตำบลขุนกระทิง อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร จึงรีบประสานงานไปยังพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองชุมพร และหน่วยกู้ชีพกู้ภัยในพื้นที่ให้เข้าตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือ

ที่เกิดเหตุอยู่บนสะพานข้ามคลองขุดนาคราช ซึ่งเป็นช่วงที่แขวงทางหลวงชุมพรได้ว่าจ้างผู้รับเหมาเข้าทำการซ่อมแซมพื้นผิวจราจรฝั่งขาล่องใต้ ทำให้มีการปิดถนนฝั่งขาล่องใต้ชั่วคราว และเปิดช่องทางพิเศษให้รถจากฝั่งขาล่องใต้มาวิ่งสวนทางกับรถฝั่งขาขึ้น โดยใช้แท่นปูนแบริเออร์วางกั้นแบ่งช่องเดินรถ

เจ้าหน้าที่พบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร สภาพด้านหน้าพังยับเยิน จอดขวางถนนช่องซ้าย จากการตรวจสอบภายในรถพบนายมนตรี (ขอสงวนนามสกุล) เป็นคนขับ และผู้โดยสารอีก 2 คน คือ น.ส.พณา (ขอสงวนนามสกุล) และนายชาญชัย (ขอสงวนนามสกุล) ทั้งสามคนได้รับบาดเจ็บจากแรงกระแทก เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลชุมพรเพื่อรักษาอาการ

ใกล้กันพบรถยนต์ตู้ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียนป้ายเหลือง จังหวัดปัตตานี ซึ่งเป็นรถรับจ้างไม่ประจำทาง สภาพด้านหน้าพังยับเยินเช่นเดียวกัน ภายในรถพบนายฮิบรอเฮง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี คนขับรถตู้ ถูกโครงรถและพวงมาลัยอัดติดอยู่ เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องตัดถ่างเข้าให้การช่วยเหลือ นำร่างออกมาได้ในสภาพขาขวาผิดรูป ก่อนเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลชุมพรเป็นการด่วน นอกจากนี้ ผู้โดยสารที่มากับรถตู้ ซึ่งเป็นชาวกัมพูชาจำนวน 12 คน ซึ่งมีเอกสารพาสปอร์ตถูกต้องตามกฎหมาย ก็ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุครั้งนี้ด้วยเช่นกัน

จากการสอบถาม นายสุริยา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี อาสากู้ภัยของมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ ซึ่งมีบ้านพักอยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ และเป็นผู้ที่ได้รับแจ้งเหตุและรีบเดินทางมาตรวจสอบในเบื้องต้น เปิดเผยว่า หลังจากรับแจ้งเหตุ ตนได้ขับรถจักรยานยนต์ออกมาดู พบว่ามีอุบัติเหตุรถกระบะชนประสานงากับรถตู้ มีผู้บาดเจ็บหลายราย โดยเฉพาะคนขับรถตู้ที่ติดภายใน จึงรีบแจ้งขอกำลังสนับสนุนชุดตัดถ่าง

นายสุริยา กล่าวต่อไปว่า จากการสอบถามคนขับรถตู้ซึ่งยังพอสื่อสารได้ ทราบว่ากำลังขับรถมาจากจังหวัดสระแก้ว เพื่อไปส่งผู้โดยสารชาวกัมพูชาที่จังหวัดสงขลา เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุได้มีรถกระบะพุ่งชนแท่นปูนกั้นกลางถนนจนแท่นปูนกระเด็น แล้วรถกระบะก็พุ่งมาชนกับรถตู้ของตนอย่างจัง

ด้านผู้เห็นเหตุการณ์อีกราย ซึ่งเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ กล่าวเสริมว่า ตนขับรถจักรยานยนต์ตามหลังรถตู้มาห่างๆ สังเกตเห็นรถกระบะที่วิ่งสวนทางมาเหมือนจะมองไม่เห็นแท่นปูน จู่ๆ ก็พุ่งเข้าชนแท่นปูนอย่างแรงจนกระเด็น ก่อนจะพุ่งชนประสานงากับรถตู้ที่วิ่งสวนทางมาจนเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว

ผู้เห็นเหตุการณ์รายนี้ยอมรับว่า ตั้งแต่แขวงทางหลวงให้ผู้รับเหมามาทำการซ่อมถนนและบังคับให้รถวิ่งสวนทางกัน แต่ผู้รับเหมานำแท่นปูนมาปิดกั้นโดยไม่ได้ติดตั้งไฟส่องสว่างคอยเตือนเป็นระยะ ติดไฟแค่ช่วงหัวท้ายเท่านั้น ทำให้รถที่มาจากต่างถิ่นไม่คุ้นเคยเส้นทางจึงเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีรถยนต์ชนแท่นปูนในบริเวณนี้มาแล้วนับ 10 ครั้ง

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุมพรจะนำเหตุการณ์อุบัติเหตุในครั้งนี้ รวมถึงข้อมูลอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ไปแจ้งให้ทางแขวงทางหลวงชุมพรรับทราบ เพื่อกดดันให้ทางผู้รับเหมาเร่งแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัย โดยการติดตั้งไฟสัญญาณหรือไฟส่องสว่างเพิ่มเติมเพื่อเตือนผู้ใช้รถใช้ถนน และสร้างความปลอดภัยในการเดินทางต่อไป ขณะที่พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองชุมพร จะทำการสอบสวนพยานและผู้เกี่ยวข้องเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุครั้งนี้อย่างละเอียด

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *