ข่าวดี! จุฬาฯ พัฒนา ‘ปะการังทนความร้อน’ สู้โลกร้อน ช่วยชีวิตแนวปะการังไทย
กรุงเทพฯ — ทีมนักวิจัยจากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประสบความสำเร็จในการพัฒนาวิธีการที่จะช่วยให้ปะการังสามารถปรับตัวอยู่รอดได้ในสภาวะโลกร้อน ด้วยการเพาะเลี้ยงปะการังด้วยวิธีผสมเทียมและเลี้ยงในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูง
นำโดย ศาสตราจารย์ ดร.สุชนา ชวนิช จากภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทีมวิจัยได้ทำการสร้าง “ปะการังทนความร้อน” ที่มีความทนทานต่อสภาวะที่เปลี่ยนแปลงได้ดีขึ้น และกำลังศึกษาเทคโนโลยีการแช่แข็งเซลล์สืบพันธุ์ของปะการัง
จากข้อมูลที่ระบุว่าปะการังทั่วโลกกว่า 90% เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ภายใน 30 ปีข้างหน้า อันเป็นผลมาจากอุณหภูมิน้ำทะเลที่สูงขึ้นและกิจกรรมของมนุษย์ ทีมนักวิจัยที่สถานีวิจัยวิทยาศาสตร์ทางทะเล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ณ เกาะสีชัง ได้ค้นพบว่า ตัวอ่อนปะการังที่ถูกเพาะเลี้ยงในน้ำที่มีอุณหภูมิสูงขึ้น (34°C) ตั้งแต่แรกเกิด จะพัฒนาความทนทานต่อภาวะโลกร้อนได้ดีกว่า
ศ.ดร.สุชนา ชวนิช กล่าวว่า “การค้นพบนี้ได้นำไปสู่การเพาะพันธุ์และเพาะเลี้ยงปะการังทนความร้อน”
กระบวนการดังกล่าวเริ่มต้นจากการเก็บเซลล์สืบพันธุ์ของปะการังในช่วงคืนเดือนเพ็ญ นำมาผสมเทียมในบ่อเพาะฟัก จากนั้นเลี้ยงดูตัวอ่อนในโรงอนุบาลเป็นเวลาประมาณ 2 ปี ก่อนที่จะนำกลับไปปล่อยในทะเล ปะการังที่ได้รับการเพาะเลี้ยงด้วยวิธีพิเศษนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความทนทานต่อเหตุการณ์ปะการังฟอกขาวได้มากขึ้น โดยในปี พ.ศ. 2566 (ค.ศ. 2023) ได้พบการสืบพันธุ์ครั้งแรกของปะการังทนความร้อนเหล่านี้
แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง (ประมาณ 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัวอ่อนปะการัง เทียบกับการขยายพันธุ์แบบใช้กิ่งที่ประมาณ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ) แต่การลงทุนนี้ให้ผลลัพธ์เป็นปะการังที่มีความหลากหลายทางพันธุกรรม ซึ่งมีความพร้อมมากกว่าในการอยู่รอดในมหาสมุทรที่มีอุณหภูมิสูงขึ้น นอกจากนี้ ทีมวิจัยยังประสบความสำเร็จในการแช่แข็งอสุจิของปะการัง และกำลังทดลองแช่แข็งไข่ปะการัง โดยหวังที่จะอนุรักษ์ปะการังหลากหลายชนิดไว้สำหรับการฟื้นฟูในอนาคตเมื่อสภาพแวดล้อมในทะเลดีขึ้น
ศ.ดร.สุชนา ได้ทำงานร่วมกับทีมวิจัยจากไต้หวัน นำโดย Dr. Chiahsin Lin เพื่อทดลองเทคโนโลยีการแช่แข็งเซลล์สืบพันธุ์ปะการังที่เก็บมาจากทะเลเพื่ออนุรักษ์ปะการังไว้สำหรับอนาคต
“ปะการังทุกชนิดมีความสำคัญต่อระบบนิเวศทางทะเล ดังนั้น การอนุรักษ์ปะการังที่ดีคือการช่วยให้ปะการังทุกชนิดมีโอกาสสืบพันธุ์และเติบโตได้ดี การเก็บรวบรวมเซลล์สืบพันธุ์ปะการังในวันนี้จึงจำเป็นต้องรวบรวมให้ได้หลากหลายชนิดมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อนำไปใช้ในอนาคตเมื่อสภาพแวดล้อมเหมาะสมที่ปะการังจะกลับมามีชีวิตอยู่ได้อีกครั้ง” ศ.ดร.สุชนา อธิบาย
ศาสตราจารย์สุชนา เน้นย้ำว่า การอนุรักษ์ปะการังให้มีประสิทธิภาพต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน รวมถึงการลดมลพิษ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการสนับสนุนงบประมาณอย่างต่อเนื่องทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการปกป้องและฟื้นฟูแนวปะการังเพื่อการคงอยู่ต่อไปในอนาคต
หลังจากระยะเวลา 2 ปี ทีมวิจัยจะนำตัวอ่อนปะการังที่รอดชีวิตเหล่านี้กลับคืนสู่ทะเล