กรุงเทพฯ – วันที่ 21 เมษายน 2568 พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สน.โชคชัย นำโดย ร.ต.อ.ภิญโญ เวียงคำ รองสารวัตรสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายวนเกษตร หรือฟิลม์ วัฒนเกษตร อายุ 29 ปี พร้อมของกลางจำนวนมาก

การจับกุมในครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2568 เวลาประมาณ 15.00 น. ที่ห้องพักหมายเลข 417 ชั้น 4 ของโรงแรมแห่งหนึ่ง ในพื้นที่แขวงสะพานสอง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร หลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สน.โชคชัย ได้รับแจ้งจากสายลับว่า มีบุคคลชื่อ นายวนเกษตร หรือฟิลม์ มีพฤติการณ์จำหน่ายพอตบุหรี่ไฟฟ้าผสมยาเคอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบ และใช้ห้องพักดังกล่าวเป็นแหล่งพักและจำหน่ายยาเสพติด

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้วางแผนและเข้าตรวจสอบภายในห้องพัก เมื่อแสดงตัวพร้อมแสดงความบริสุทธิ์ใจ นายวนเกษตร ได้เปิดประตูให้เจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจค้น โดยผลการตรวจค้นพบของกลางซุกซ่อนอยู่ภายในห้องพัก ประกอบด้วย

• พอตบุหรี่ไฟฟ้าผสมยาเค จำนวน 50 หัว
• แฮปปี้วอเตอร์ชนิดผง บรรจุซอง 1 ซอง
• ยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ 0.92 กรัม
• อุปกรณ์การเสพยาเสพติด
• เครื่องชั่งดิจิตอล
• สมุดบันทึกรายรับ-รายจ่าย
• ใบเสร็จรับเงิน

จากการสอบปากคำเบื้องต้น นายวนเกษตร ให้การรับสารภาพว่า ของกลางทั้งหมดเป็นของตนเองจริง และเพิ่งเสพยาไอซ์ไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้ามาตรวจค้น นอกจากนี้ยังยอมรับว่า มีการจำหน่ายหัวพอตบุหรี่ไฟฟ้าผสมยาเคในราคาหัวละ 1,800 บาท โดยใช้วิธีการเช่าห้องพักรายวันในโรงแรมแห่งนี้มาประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับกุม

เจ้าหน้าที่ยังได้ทำการขยายผลจากพนักงานโรงแรม ซึ่งให้ข้อมูลว่า พบเห็นไรเดอร์เข้ามารับพัสดุจากผู้ต้องหาเป็นประจำ สะท้อนให้เห็นถึงรูปแบบการจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์และบริการจัดส่ง

ในส่วนของการตรวจสอบทางการเงิน แม้ว่าในห้องพักจะไม่พบเงินสดจำนวนมาก และมีเงินในบัญชีที่ตรวจสอบได้เบื้องต้นเพียง 5,046 บาท แต่จากการตรวจสอบประวัติการเงินย้อนหลัง 6 เดือน พบว่ามีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 1,000,000 บาท ซึ่งเป็นข้อบ่งชี้ถึงขนาดของการกระทำความผิด

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ทำการตรวจปัสสาวะของนายวนเกษตร ซึ่งผลตรวจเบื้องต้นพบสารเสพติด และเมื่อส่งไปตรวจยืนยันโดยแพทย์ ก็พบสารเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีนในปัสสาวะจริง

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาแก่นายวนเกษตร วัฒนเกษตร รวม 4 ข้อหาหนัก ได้แก่

1. มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์, แฮปปี้วอเตอร์) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
2. เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย
3. ขายหรือให้บริการบุหรี่ไฟฟ้า หรือน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า โดยผิดกฎหมาย (ตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 และ พ.ร.บ. คุ้มครองผู้บริโภค ฉบับที่ 4)
4. ช่วยซ่อนเร้น ซื้อ รับไว้ หรือมีบุหรี่ไฟฟ้าไว้ในครอบครอง ทั้งที่รู้อยู่ว่า เป็นของที่ห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร (ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 246)

หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่จะได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.