เซินเจิ้น, จีน — กลายเป็นประเด็นร้อนและถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางบนโซเชียลมีเดียทั่วโลก หลังจากมีคลิปเหตุการณ์ชุลมุนที่สถานีรถไฟความเร็วสูงเซินเจิ้นเหนือ ประเทศจีน เมื่อหญิงรายหนึ่งพยายามขัดขวางการปิดประตูรถไฟ เพื่อรอเพื่อนร่วมทางที่ยังมาไม่ถึง แม้ว่าการกระทำดังกล่าวจะไม่ทำให้รถไฟล่าช้า แต่ก็ส่งผลกระทบต่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสถานี และนำไปสู่การถูกจับกุมในที่สุด

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 18 เมษายน บนรถไฟความเร็วสูงขบวน D2404 ซึ่งกำลังจะออกเดินทางจากสถานีเซินเจิ้นเหนือ มุ่งหน้าไปยังเมืองเซียเหมิน ขณะที่ประตูรถไฟกำลังจะปิดโดยอัตโนมัติ ผู้โดยสารหญิงวัย 43 ปีรายหนึ่ง ได้รีบวิ่งมาที่ประตูตู้โดยสารของเธอ และใช้ร่างกายยืนขวางไม่ให้ประตูปิดลง

ในขณะที่ประตูตู้โดยสารอื่นๆ ได้ปิดสนิทและพร้อมออกเดินทาง มีเพียงประตูตู้ที่เธออยู่เท่านั้นที่ยังคงเปิดอยู่ พร้อมกับมีเสียงสัญญาณเตือนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในภาพที่ปรากฏ เธอใช้ขาข้างหนึ่งอยู่บนรถไฟ อีกข้างอยู่บนชานชาลา มือถือโทรศัพท์กำลังโทรออกด้วยใบหน้าท่าทางที่แสดงความกังวลอย่างชัดเจน

เจ้าหน้าที่ประจำรถไฟความเร็วสูงและเจ้าหน้าที่ของสถานีที่เห็นเหตุการณ์ ได้รีบเข้ามาเพื่อเข้าห้ามปรามและพยายามพาเธอออกจากบริเวณประตูรถ แต่หญิงรายนี้ยังคงขัดขืน เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพยายามดึงเธอเข้าไปในรถ ในขณะที่อีกคนพยายามดันเธอขึ้นไปบนชานชาลา การยื้อยุดฉุดกระชากเกิดขึ้นชั่วขณะหนึ่ง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะสามารถพาเธอเข้าไปในรถได้ในที่สุด อย่างไรก็ตาม ขณะที่ประตูกำลังจะปิดอีกครั้ง เธอก็พยายามยื่นขาออกไปนอกประตูเพื่อขวางไว้อีกครั้ง แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะไม่ยอมแพ้ จนกว่าบุคคลที่เธอกำลังรออยู่จะมาถึง

ในที่สุด เพื่อนร่วมทางของหญิงรายนี้ก็มาถึง พร้อมกระเป๋าเดินทาง และสามารถขึ้นรถไฟได้ทันเวลา เหตุการณ์จึงคลี่คลายลง และรถไฟสามารถออกเดินทางได้ตามกำหนดการ โดยไม่ได้เกิดความล่าช้าแต่อย่างใด

หลังเกิดเหตุ ทางสถานีรถไฟเซินเจิ้นเหนือได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงทันที ยืนยันว่าแม้เหตุการณ์จะไม่ทำให้รถไฟล่าช้า แต่พฤติกรรมของผู้โดยสารหญิงรายนี้ถือเป็นการรบกวนและขัดขวางการทำงานที่เป็นระบบระเบียบของสถานี ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้เข้าดำเนินการสอบสวนทันที

จากการสอบสวน หญิงผู้ก่อเหตุ ซึ่งมีอายุ 43 ปี ได้ถูกจับกุมและยอมรับสารภาพในสิ่งที่เธอทำ การกระทำของเธอเข้าข่ายการกระทำที่ผิดกฎหมายในการขัดขวางการทำงานตามปกติของระบบขนส่งสาธารณะ

แม้จะไม่มีการเปิดเผยบทลงโทษอย่างเป็นทางการในทันที แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายได้ให้ความเห็นว่า ตามกฎหมายของจีน การกระทำในลักษณะดังกล่าวอาจมีบทลงโทษตั้งแต่การถูกควบคุมตัวเป็นเวลาไม่เกิน 10 วัน และปรับเป็นเงิน 500 หยวน หรือประมาณ 2,000 บาท นอกจากนี้ หากพฤติกรรมการขัดขวางรถไฟครั้งนี้ส่งผลให้เกิดผลกระทบที่ร้ายแรงกว่าที่เกิดขึ้น เช่น ทำให้รถไฟต้องเบรกฉุกเฉินอย่างกะทันหัน จนผู้โดยสารภายในรถได้รับบาดเจ็บหรือเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงอื่นๆ ผู้กระทำอาจจะต้องเผชิญกับการดำเนินคดีทางอาญา ซึ่งจะมีบทลงโทษที่หนักกว่ามาก

เหตุการณ์นี้เป็นเครื่องเตือนใจถึงความสำคัญของการเคารพกฎระเบียบและระบบการทำงานของระบบขนส่งสาธารณะ และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นตามมาจากการกระทำที่ไม่เหมาะสม แม้จะมีเจตนาที่จะช่วยเหลือผู้อื่นก็ตาม