นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ได้แสดงความเห็นต่อสงครามภาษีของสหรัฐฯ เป็นครั้งแรกในบทความ “ทัศนะของข้าพเจ้าต่อสงครามภาษี” โดยชี้ว่า การขึ้นภาษีศุลกากรตอบโต้ของสหรัฐฯ ไม่สอดคล้องกับหลักการทางเศรษฐศาสตร์ และเป็นการใช้อำนาจบีบบังคับคู่ค้าเพื่อแสวงหาผลประโยชน์เพียงฝ่ายเดียว

เอกอัครราชทูตจีนฯ ระบุว่า การค้าระหว่างประเทศตั้งอยู่บนพื้นฐานของทรัพยากรและข้อได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบของแต่ละประเทศ โดยมีหัวใจสำคัญอยู่ที่การค้าขายที่สมัครใจและเพื่อประโยชน์ร่วมกัน การที่สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีตอบโต้กับคู่ค้าจึงไม่ใช่ความยุติธรรม แต่เป็นการใช้อำนาจการเมืองเข้าครอบงำเศรษฐกิจและการค้า

“หากทุกประเทศต่างคิดว่าประเทศของตนเองต้องมาก่อน และหลงเชื่อในสถานะที่มีอำนาจที่แข็งแกร่ง โลกนี้จะถอยกลับไปสู่ยุคแห่งกฎป่า” นายหานกล่าว พร้อมเตือนว่าสงครามภาษีของสหรัฐฯ ทำให้ห่วงโซ่อุปทานสั่นคลอนไปทั่วโลก และส่งผลให้เศรษฐกิจโลกเสี่ยงต่อการถดถอยอย่างหนัก

สำหรับความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ นั้น เอกอัครราชทูตจีนฯ ย้ำว่าทั้งสองฝ่ายต่างได้ประโยชน์จากการค้าร่วมกัน และสงครามการค้าย่อมไม่มีผู้ชนะ “จีนไม่ประสงค์จะทำสงครามภาษี แต่หากมีคนบังคับเรียกเก็บภาษีอย่างไม่มีเหตุผลกับจีน จีนก็จำเป็นต้องตอบโต้อย่างเด็ดขาด”

ในส่วนของความร่วมมือจีน-ไทย นายหานระบุว่าทั้งสองประเทศควรร่วมมือกันยึดมั่นในหลักการค้าเสรี และจีนพร้อมสนับสนุนให้ผลิตภัณฑ์ไทยเข้าสู่ตลาดจีนมากขึ้น รวมถึงส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัลและเศรษฐกิจสีเขียวของไทย