นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม สส.จังหวัดนครศรีธรรมราช เขต 8 จากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อเปิดเผยข้อมูลที่น่าตกใจเกี่ยวกับสถานการณ์การเลือกตั้งซ่อมที่เพิ่งผ่านพ้นไป โดยพุ่งเป้าไปที่พฤติกรรมการซื้อเสียงที่อ้างว่าเกิดขึ้นอย่างมโหฬาร

นายชินวรณ์ ระบุว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ แม้จะมีภาพประทับใจจากคะแนนบริสุทธิ์ แต่กลับมีข้อเท็จจริงอีกด้านที่น่ากังวล โดยเฉพาะการเข้ามาของสิ่งที่เขาเรียกว่า "2 พรรคธุรกิจการเมือง" ซึ่งใช้ "อำนาจรัฐเป็นฐาน" และมีการแข่งขันกันจ่ายเงินซื้อเสียงประชาชนอย่างดุเดือด โดยราคาต่อหัวได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จาก 1,000 บาทในวันที่ 24 เมษายน เป็น 1,500 บาทในวันที่ 25 เมษายน และพุ่งสูงถึง 2,000 บาทในคืนวันที่ 26 เมษายน ก่อนวันเลือกตั้ง

เขายังเปิดเผยตัวเลขการใช้จ่ายที่ประเมินว่าสูงถึงหลักร้อยล้านบาท โดยอ้างว่าพรรคหนึ่งตั้งเป้าหมายคะแนนไว้ที่ 40,000 คะแนน แต่ได้มีการซื้อเสียงถึง 70,000 คะแนน ด้วยงบประมาณ 70 ล้านบาท และยังมีค่าบริหารจัดการอีก 30 ล้านบาท รวมเป็น 100 ล้านบาท ขณะที่อีกพรรคหนึ่งตั้งเป้า 30,000 คะแนน ซื้อ 40,000 คะแนน คิดเป็นเงิน 40 ล้านบาท และมีค่าบริหารจัดการอีก 30 ล้านบาท รวมเป็น 70 ล้านบาท การซื้อเสียงยังคงดำเนินไปจนถึงบริเวณหน้าหน่วยเลือกตั้ง

ประเด็นที่นายชินวรณ์เน้นย้ำอย่างหนักคือ บทบาทของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยเขาระบุว่า มีพลเมืองดีจำนวนมากได้โทรศัพท์แจ้งเบาะแสและสถานที่เกิดเหตุเกี่ยวกับการซื้อเสียงไปยัง กกต. แล้ว แต่กลับไม่มีการดำเนินการใดๆ ที่ชัดเจน โดยเฉพาะหัวหน้าชุดสืบสวนที่อ้างว่าไม่เคยรับสาย

นายชินวรณ์กล่าวด้วยน้ำเสียงตัดพ้อว่า "นี่คือความจริงที่ กกต. เท่านั้นที่ไม่รู้ มันจึงไม่มีคะแนนที่เหลือให้กับฝ่ายการเมืองสุจริตเลยงัยครับ" อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่า ในหมู่บ้านของตนเอง 2 หมู่บ้าน เขายังคงได้รับคะแนนบริสุทธิ์และเป็นผู้ชนะในพื้นที่นั้น

ในท้ายที่สุด นายชินวรณ์ได้แสดงความขอบคุณต่อคะแนนบริสุทธิ์ที่ได้รับ และประกาศว่าจะ "รอดูผลงานของ กกต. ต่อไป" ในการจัดการกับข้อกล่าวหาเรื่องการซื้อเสียงครั้งใหญ่นี้