จีนตอบโต้หนัก! ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐ 84% หลังโดนทรัมป์เก็บภาษี 125%
จีนตอบโต้อย่างหนักหน่วงต่อมาตรการภาษีของสหรัฐ โดยประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐเป็น 84% จากเดิม 34% หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นภาษีสินค้าจีนเป็น 125% ส่งผลให้ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองมหาอำนาจเศรษฐกิจทวีความรุนแรงขึ้น
ตามรายงานของบีบีซี เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2568 รัฐบาลจีนได้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐทั้งหมดเป็นร้อยละ 84 จากเดิมที่ระบุไว้ร้อยละ 34 ภายหลังที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ เรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติมจากจีนจนสูงถึงอัตราภาษีที่ร้อยละ 125
ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าสงครามการค้าระหว่างสองชาติเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ของโลกจะยืดเยื้อและยิ่งทวีความรุนแรง ก่อนหน้านี้รัฐบาลจีนให้คำมั่นว่าจะ “สู้จนถึงที่สุด” ส่วนรัฐบาลสหรัฐกล่าวเช่นกันว่าจะไม่ยอมถอยให้จีน
นอกจากภาษีนำเข้าแล้ว จีนยังกำหนดข้อจำกัดต่อบริษัทในสหรัฐหลายสิบแห่ง รวมถึงมาตรการสั่งห้ามผู้บริหารของบริษัทเหล่านี้ไม่ให้เดินทางเข้าจีนหรือห้ามลงทุนในจีนด้วย
ขณะเดียวกัน จีนยื่นเรื่องร้องเรียนต่อองค์การการค้าโลก (WTO) อีกครั้ง โดยกล่าวหาว่าประธานาธิบดีทรัมป์ใช้กลวิธี “กลั่นแกล้ง” ในการทำการค้า
กระทรวงพาณิชย์ของจีนระบุเมื่อวันพุธที่ 9 เม.ย.ว่า “การขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐ 50% ถือเป็นความผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่าซึ่งแสดงให้เห็นถึงการกลั่นแกล้งฝ่ายเดียวจากมาตรการของสหรัฐ จีนจะปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดตามกฎของ WTO”
ด้านกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจีนประกาศคำแนะนำการเดินทางให้พลเรือนชาวจีนระมัดระวังและ “ประเมินความเสี่ยงให้ครบถ้วน” ก่อนเดินทางไปสหรัฐ โดยกล่าวถึงเหตุผลว่าด้วยความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐที่ถดถอยลง
ส่วนกระทรวงศึกษาธิการของจีนออกคำเตือนแนะนำให้นักเรียนชาวจีนประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัยเมื่อตัดสินใจว่าจะศึกษาต่อในสหรัฐหรือไม่