รวบคาคอนโด! ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ จับชาวโครเอเชีย ลอบทำทัวร์เถื่อน ไร้ใบอนุญาต-เวิร์คเพอร์มิต

เชียงใหม่ – ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ สนธิกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าจับกุมชาวโครเอเชียรายหนึ่ง ลักลอบเปิดธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาตและทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดร้ายแรง มีโทษทั้งจำคุกและปรับสูงสุดกว่า 5 แสนบาท

สืบเนื่องจากได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนในพื้นที่ว่า มีชาวต่างชาติลักลอบขายโปรแกรมทัวร์ให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ พล.ต.ท. ศักศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว จึงได้สั่งการให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร่งด่วน เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 2 ได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ เจ้าหน้าที่สำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์สาขาภาคเหนือเขต 1 เข้าทำการตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง พบการกระทำผิดจริงบริเวณชั้นล่างของคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งบนถนนช้างคลาน ซึ่งเป็นห้องเช่าที่ใช้เป็นสถานที่ดำเนินงานโดยไม่มีการขออนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และยังพบหลักฐานการขายแพ็กเกจทัวร์ให้กับนักท่องเที่ยวในสถานที่ดังกล่าวด้วย

จากการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวและเข้าจับกุม นายอันเดรจ (Mr. Andrej) สัญชาติโครเอเชีย ซึ่งเป็นผู้ที่แสดงตนว่าเป็นเจ้าของธุรกิจและปรากฏชื่อเป็นผู้ขายโปรแกรมทัวร์ เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีในความผิดฐาน “ประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามมาตรา 24 และมาตรา 82 แห่งพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 และแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และในความผิดฐาน “ทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน” ตามมาตรา 8 แห่งพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งมีโทษปรับตั้งแต่ 5,000 – 50,000 บาท จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ปฏิบัติการในครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของการกวาดล้าง 10 พฤติการณ์ที่ต้องห้าม ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว และฟื้นฟูชื่อเสียงของประเทศไทยในฐานะที่เป็นจุดหมายปลายทางที่ปลอดภัยและได้มาตรฐาน

นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวว่า กรมการท่องเที่ยวมีแนวทางการกำกับดูแลธุรกิจนำเที่ยวให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ อย่างชัดเจน เพื่อความเป็นธรรมต่อผู้ประกอบธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย และสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งทางกรมฯ มีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมในการแก้ไขปัญหาธุรกิจนำเที่ยวที่ใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (Nominee) และมัคคุเทศก์ผิดกฎหมายมาอย่างต่อเนื่อง

อธิบดีกรมการท่องเที่ยวได้เน้นย้ำให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวทุกรายดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และขอความร่วมมือประชาชนหากพบเห็นพฤติกรรมต้องสงสัย สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่กรมการท่องเที่ยว หรือที่ศูนย์ปฏิบัติการร่วมในการแก้ไขปัญหาธุรกิจนำเที่ยวที่ใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (จ็อกสท์ – JOCST) หมายเลขโทรศัพท์ 0-2141-3119 หรือ 0-2141-3264

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *