รวบออแกไนซ์ตุ๋นพ่อค้าแม่ค้าเช่าบูธสงกรานต์เชียงใหม่ เสียหายนับแสนบาท

เชียงใหม่ – จากกรณีกลุ่มผู้เสียหายจำนวนมากได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ หลังถูกมิจฉาชีพหลอกลวงให้เช่าพื้นที่ขายของ หรือจองล็อค ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ บริเวณรอบคูเมืองเชียงใหม่ แต่สุดท้ายกลับถูกยกเลิกและไม่ได้รับเงินคืน สร้างความเสียหายรวมนับแสนบาท

รูปแบบการหลอกลวงดังกล่าว เริ่มต้นจากการโพสต์ข้อความชักชวนในกลุ่มเฟซบุ๊กสาธารณะกลุ่มหนึ่ง ซึ่งมีสมาชิกจำนวนมาก โดยโพสต์ระบุข้อความในลักษณะว่า “เปิดจองล็อค สงกรานต์ เชียงใหม่ ติดคูเมือง วันที่ 13-15 เม.ย.68 สนใจจองล็อคหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มกด ลิ้งค์ line”

ผู้เสียหายที่สนใจได้กดลิงก์เพื่อเพิ่มเพื่อนในแอปพลิเคชันไลน์ โดยโปรไฟล์ที่ปรากฏมีชื่อว่า “prin” จากนั้นได้มีการสอบถามรายละเอียดและได้รับการแจ้งว่า ล็อคขายของมีราคาล็อคละ 5,000 บาท มีจำนวนจำกัดเพียง 30 ล็อค และขณะนั้นเหลือเพียง 3 ล็อคสุดท้าย สร้างความรู้สึกเร่งด่วนให้ตัดสินใจจอง

ผู้ต้องหายังสร้างความน่าเชื่อถือด้วยการอ้างว่า หากชำระเงินมัดจำหรือบางส่วนแล้ว จะถูกดึงเข้ากลุ่มไลน์ชื่อว่า “cm market” หรือ “อีเว้นท์เชียงใหม่” ซึ่งมีสมาชิกมากกว่า 400 คน ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินจองล็อคไป

ต่อมา ผู้เสียหายได้รับการแจ้งยกเลิกการจอง และเมื่อติดต่อขอเงินคืน กลับถูกบ่ายเบี่ยงและสุดท้ายก็ถูกเชิดเงินไป ซึ่งจากรายงานมีผู้เสียหายในกรณีนี้รวมกว่า 400 คน และมูลค่าความเสียหายรวมกันถึงนับแสนบาท

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2568 พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภูธรภาค 5 ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ เร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนในคดีนี้

ทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน ประกอบด้วย พล.ต.ต.ธนะรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5, และ พล.ต.ต.ยุทธนา แก่นจันทร์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหา

จนกระทั่งทราบว่าบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดในข้อหา “ฉ้อโกง ฉ้อโกงประชาชน โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” พักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่

เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงนำกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าว และพบนายภาวัช (สงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี ชาวจังหวัดเชียงใหม่ อยู่ในบริเวณบ้าน เมื่อเจ้าหน้าที่แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและสอบถามชื่อ-นามสกุล พร้อมเลขประจำตัวประชาชน พบว่าตรงกับรายละเอียดของผู้ต้องหาในหมายจับ

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงหมายจับและอ่านให้นายภาวัชฟังจนเข้าใจ ซึ่งนายภาวัชรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และไม่เคยถูกจับกุมในคดีนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ พร้อมแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ ซึ่งนายภาวัชรับทราบและเข้าใจสิทธิ์ของตนเองเป็นอย่างดี

ภายหลังการจับกุม นายภาวัชได้สมัครใจนำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจค้นภายในบ้านพัก ซึ่งพบรายการสิ่งของตามรายการตรวจยึด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวนายภาวัชมาทำบันทึกการจับกุมและบันทึกตรวจยึดที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ภูธรภาค 5 (ศปอส.ภ.5) ก่อนจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนทราบว่า นายภาวัชได้ก่อเหตุหลอกลวงผู้เสียหายหลายรายผ่านเพจเฟซบุ๊กในลักษณะเดียวกันนี้ โดยมีมูลค่าความเสียหายรวมกว่าแสนบาท ซึ่งทางตำรวจภูธรภาค 5 จะเร่งสืบสวนขยายผล รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อดำเนินคดีกับนายภาวัชและผู้เกี่ยวข้อง หากมี ต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *