คาเฟ่เชียงใหม่แจงดราม่า ‘สวนสัตว์มนุษย์’ ยันไม่ใช่โชว์ แต่เป็นวิถีโรงงานเก่า เคารพทุกศักดิ์ศรี
เชียงใหม่ – วันที่ 25 เมษายน 2568 ร้านคาเฟ่ชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงผ่านช่องทางออนไลน์ถึงประเด็นดราม่าที่กำลังถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง กรณีที่ร้านถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีลักษณะคล้าย ‘สวนสัตว์มนุษย์’ เนื่องจากลูกค้าสามารถมองเห็นกระบวนการทำงานคัดแยกใบยาสูบของคนงานได้
ทางร้านระบุในคำชี้แจงว่า รู้สึกตกใจและขออภัยหากมีผู้ที่เข้าใจเจตนาของร้านคลาดเคลื่อนไป โดยยืนยันว่าพื้นที่ปัจจุบันของร้านนั้น เดิมคือสถานที่ประกอบธุรกิจโรงงานคัดใบยาสูบเก่าแก่ของครอบครัว ที่สืบทอดกิจการมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่ คุณพ่อ จนถึงรุ่นปัจจุบัน ซึ่งดำเนินการโดยคุณอาของผู้โพสต์
ผู้โพสต์มีความตั้งใจที่จะสานต่อเรื่องราวและคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของสถานที่แห่งนี้ในรูปแบบที่เปิดกว้างมากขึ้น จึงได้ปรับปรุงเป็นร้านอาหารและคาเฟ่ โดยยังคงไว้ซึ่งบรรยากาศและจิตวิญญาณของโรงงานดั้งเดิม
การออกแบบร้านได้ว่าจ้างสถาปนิกที่เน้นการอนุรักษ์โครงสร้างเดิม เพื่อให้พื้นที่สามารถบอกเล่าเรื่องราวของธุรกิจครอบครัว ทั้งการปลูก การบ่ม และการคัดใบยาสูบ นอกจากนี้ ภายในร้านยังมีห้องจัดแสดงข้อมูลเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาด้วย
สำหรับประเด็นที่ถูกมองว่าเป็น ‘สวนสัตว์มนุษย์’ ทางร้านชี้แจงว่า ในช่วงฤดูกาลคัดใบยาสูบ คือประมาณเดือนมกราคมถึงพฤษภาคมของทุกปี ยังคงมีการดำเนินงานคัดใบยาเกิดขึ้นจริง โดยใช้คนงานดั้งเดิมซึ่งมีความชำนาญเฉพาะทาง และกระบวนการนี้ไม่ใช่การจัดฉากขึ้นเพื่อการแสดงโชว์สำหรับลูกค้า แต่เป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจโรงงานที่ยังดำเนินอยู่ควบคู่ไปกับคาเฟ่ โดยคนงานทุกคนได้รับค่าตอบแทนที่เป็นธรรมตามหลักสากล
ทางคาเฟ่ย้ำว่า การก่อตั้งร้านแห่งนี้ไม่ใช่เพื่อความบันเทิง แต่ตั้งใจให้เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวของอาชีพที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และเคารพในศักดิ์ศรีของแรงงานทุกคนมาโดยตลอด
ในท้ายคำชี้แจง ทางร้านยืนยันด้วยความจริงใจว่าไม่เคยมีเจตนาลดทอนคุณค่าของอาชีพใดๆ หรือเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของผู้ใดทั้งสิ้น ตรงกันข้าม พวกเขาเชื่อมั่นว่าทุกอาชีพล้วนมีคุณค่า และทุกคนมีศักดิ์ศรีที่สมควรได้รับการเคารพอย่างเท่าเทียม
ทางร้านขอขอบคุณทุกความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้รับ พร้อมน้อมรับไปพัฒนาและปรับปรุงการดำเนินงานในอนาคต โดยจะยังคงยึดมั่นในความเคารพ ความตั้งใจ และความรับผิดชอบต่อสังคมต่อไป