อัศจรรย์ AI: ChatGPT แนะนำให้วัดความดัน ช่วยชีวิตหญิงตั้งครรภ์รอดจากภาวะครรภ์เป็นพิษ

อัศจรรย์ AI: ChatGPT แนะนำให้วัดความดัน ช่วยชีวิตหญิงตั้งครรภ์รอดจากภาวะครรภ์เป็นพิษ

เรื่องราวของหญิงตั้งครรภ์ชาวอเมริกันที่รู้สึกกรามตึงๆ และลองถาม ChatGPT เล่นๆ ได้กลายเป็นไวรัล เมื่อคำแนะนำจาก AI ตัวนี้กลับช่วยชีวิตเธอและลูกไว้ได้ โดย ChatGPT ได้แนะนำให้เธอรีบวัดความดันโลหิต ซึ่งนำไปสู่การตรวจพบภาวะครรภ์เป็นพิษขั้นรุนแรงและได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

นาตาเลีย ทาเรียน วัย 28 ปี คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ได้ 8 เดือน และอาศัยอยู่ในเมืองชาร์ลอตต์ รัฐเซาท์แคโรไลนา สหรัฐอเมริกา ได้แบ่งปันประสบการณ์อันน่าทึ่งนี้บนแพลตฟอร์ม Reddit และต่อมาได้กลายเป็นเรื่องราวที่โด่งดังไปทั่วโลกออนไลน์

นาตาเลียเล่าว่า ด้วยความอยากรู้และรู้สึกสนุก เธอชอบที่จะป้อนคำถามต่างๆ ให้กับ ChatGPT เพื่อพูดคุยในหัวข้อที่หลากหลาย วันหนึ่ง เธอรู้สึกว่าบริเวณกรามและขากรรไกรของเธอมีความตึงอย่างผิดปกติ แม้จะไม่ได้รู้สึกว่าเป็นอาการที่รุนแรงอะไร แต่เธอก็ตัดสินใจลองถามความเห็นจาก ChatGPT

สิ่งที่น่าประหลาดใจคือ ChatGPT ไม่ได้ให้คำตอบทั่วไป แต่กลับให้คำแนะนำที่เฉพาะเจาะจงและเร่งด่วน นั่นคือการให้เธอรีบทำการวัดความดันโลหิตทันที

นาตาเลียปฏิบัติตามคำแนะนำและพบว่าค่าความดันโลหิตของเธอสูงกว่าปกติมาก เธอลองวัดซ้ำอีกครั้งในอีก 30 นาทีต่อมา และพบว่าตัวเลขยิ่งสูงขึ้นไปอีก ในตอนนั้นเองที่ ChatGPT แจ้งเตือนเธอด้วยข้อความที่ชัดเจนว่า "คุณควรโทรเรียกรถพยาบาลทันที"

ในตอนแรก นาตาเลียยังรู้สึกกึ่งๆ เชื่อกึ่งๆ ไม่เชื่อในคำแนะนำของ AI เธอยอมรับว่ามีบางส่วนที่คิดว่าอาการอาจจะดีขึ้นเอง แต่โชคดีที่เธอตัดสินใจเชื่อในคำแนะนำที่ได้รับและรีบเดินทางไปโรงพยาบาล

เมื่อไปถึงโรงพยาบาล ทีมแพทย์ได้ทำการตรวจร่างกายและพบว่าค่าความดันโลหิตของนาตาเลียสูงถึง 200/146 มิลลิเมตรปรอท ซึ่งถือเป็นระดับที่อันตรายอย่างยิ่ง และเข้าข่ายภาวะวิกฤต แพทย์จึงวินิจฉัยว่าเธอมีอาการของโรคพรีเอคลัมเซีย (Preeclampsia) หรือภาวะครรภ์เป็นพิษอย่างรุนแรง และจำเป็นต้องทำการผ่าตัดคลอดฉุกเฉินเพื่อช่วยชีวิตทั้งแม่และลูก

แม้ว่าลูกชายของเธอจะคลอดออกมาอย่างปลอดภัย แต่สุขภาพของนาตาเลียยังคงน่าเป็นห่วง การมองเห็นของเธอเริ่มพร่ามัว ซึ่งเป็นสัญญาณที่อาจบ่งชี้ถึงภาวะสมองบวม แพทย์จึงรีบส่งเธอไปตรวจด้วยเครื่องสร้างภาพด้วยสนามแม่เหล็ก (MRI) อย่างเร่งด่วน โชคดีที่หลังจากได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดในโรงพยาบาลเป็นเวลา 5 วัน อาการของนาตาเลียก็ค่อยๆ ดีขึ้น และในที่สุดเธอก็สามารถมองเห็นใบหน้าของลูกชายที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้อย่างชัดเจน

เรื่องราวของนาตาเลียที่แบ่งปันบนอินสตาแกรมได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม มียอดเข้าชมมากกว่า 30 ล้านครั้ง ผู้คนจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็น บ้างก็ชื่นชมปัญญาประดิษฐ์ ChatGPT ที่ให้คำแนะนำอันมีค่า และบางคนก็แบ่งปันประสบการณ์ที่คล้ายคลึงกัน เช่น มีผู้หนึ่งเล่าว่าเคยได้รับคำแนะนำจาก ChatGPT ในอาการปวดท้องและพบว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบในภายหลัง

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางเสียงชื่นชม ก็มีผู้ใช้งานบางส่วนออกมาเตือนให้ระมัดระวังในการใช้ AI เพื่อขอคำแนะนำทางการแพทย์ โดยเน้นย้ำว่า ChatGPT หรือ AI อื่นๆ ไม่สามารถทดแทนแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ หากมีอาการผิดปกติทางสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุด

เหตุการณ์นี้ถือเป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่น่าทึ่งของ AI ในการประมวลผลข้อมูลและให้คำแนะนำ แต่ขณะเดียวกันก็ย้ำเตือนถึงความสำคัญของการใช้วิจารณญาณและการพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญในด้านสุขภาพที่ซับซ้อน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *