เฉลิมชัย ลั่น ปชป. วิกฤตเหลือ 25 สส. ประกาศก้อง! พาพรรคกลับมายิ่งใหญ่ ยันไร้โกงกิน ใช้หนี้บุญคุณที่พรรคให้

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยอมรับสภาพพรรคที่เหลือ สส. เพียง 25 คน เป็นช่วงวิกฤต พร้อมประกาศนำพาพรรคกลับมายิ่งใหญ่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ยืนยันการทำงานปราศจากการทุจริต และจะไม่มีวันเนรคุณพรรคที่ให้ที่ยืนมาตลอด พร้อมปลุกคนคอนร่วมสร้างประชาธิปไตยสุจริต

เมื่อวันที่ 26 เม.ย. เวลา 09.30 น. ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ หลักสี่ พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดให้มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2568 โดยมี นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานและกล่าวเปิดการประชุม

นายเฉลิมชัย กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์กำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 80 ตลอด 79 ปีที่ผ่านมา พรรคได้เผชิญวิกฤตมามากมาย มีทั้งช่วงรุ่งเรืองและตกต่ำ ซึ่งเป็นธรรมชาติของการเมือง แต่สถานการณ์ปัจจุบันที่สังคมและบริบทเปลี่ยนแปลงไป ทำให้พรรคอยู่ในจุดที่วิกฤตอีกครั้งในช่วง 10-15 ปีหลัง โดยมีจำนวน สส. ลดลงเหลือเพียง 25 คน “ถ้าพูดตามหลักวิทยาศาสตร์ วันนี้พรรคเราอยู่ในช่วงวิกฤต ซึ่งเราต้องยอมรับความจริง” นายเฉลิมชัยกล่าวย้ำ

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่จะดำเนินการต่อจากนี้คือ การกล้าเปลี่ยนแปลง กล้าตัดสินใจ เพื่อนำพรรคเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง โดยยังคงยึดมั่นในหลักการและอุดมการณ์ที่ไม่เปลี่ยนแปลง พรรคประชาธิปัตย์ได้ทำประโยชน์ให้ประเทศชาติมามาก และสิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้พรรคต่อสู้ต่อไปได้คือ “ความมีเอกภาพ” ซึ่งเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่

นายเฉลิมชัย ได้กล่าวถึงเส้นทางการเมืองของตนเองว่าอยู่ในพรรคประชาธิปัตย์มา 24 ปี และเล่นการเมืองมาแล้ว 35 ปี ตั้งแต่เป็น สส. ครั้งแรกในปี 2544 ตนไม่เคยเปลี่ยนแปลงอุดมการณ์หรือหลักการเลย สิ่งที่เปลี่ยนไปคืออารมณ์ที่ร้อนแรงน้อยลง อัตตาและทิฐิน้อยลง ได้ประสบการณ์และสถานะทางสังคมเพิ่มขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้พรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้ให้ “นี่คือสำนึกในวันที่กลับมา ไม่ว่าพรรคจะเป็นอย่างไรก็ตาม ผมไม่มีวันทิ้งพรรค จะยืนอยู่กับพวกเราทุกคน โดยยึดมั่นในอุดมการณ์ หลักการประชาธิปไตยที่สุจริต” นายเฉลิมชัยกล่าวอย่างหนักแน่น

เขายังกล่าวถึงประสบการณ์ส่วนตัวในการเลือกตั้งปี 2562 ที่สอบตกเพราะไม่ยอมซื้อเสียง ซึ่งภูมิใจในความเป็นประชาธิปไตยที่สุจริตและภูมิใจในพรรค แม้จะไม่เคยได้รับเสียงปรบมือให้กำลังใจ แต่ก็ยังยึดมั่นและพร้อมนำพรรคกลับมา “เสียงปรบมือ คำชื่นชม ดูถูก คำปรามาส ก็เป็นแรงบันดาลใจ ผมจะรวมทุกอย่างมาเป็นกำลังใจในการพาประชาธิปัตย์เดินไปข้างหน้าให้ได้”

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ชี้แจงถึงการตัดสินใจร่วมรัฐบาลว่าเป็นไปบนพื้นฐานของประโยชน์ประเทศชาติ ประชาชน และพรรคประชาธิปัตย์เป็นหลัก ตนเองในฐานะ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะไม่ยอมให้มีการทุจริตคอร์รัปชันที่ทำให้พรรคเสื่อมเสีย การร่วมรัฐบาลเป็นไปตามข้อบังคับพรรค ไม่ใช่การตัดสินใจของคนใดคนหนึ่งเพียงคนเดียว ความเห็นต่างมีได้ แต่ต้องไม่สร้างความเสียหายให้กับองค์กร ย้ำว่าหลักการความซื่อสัตย์สุจริตยังคงเดิม เป้าหมายคือทำงานเต็มที่ รักษาชื่อเสียงพรรค และพาพรรคกลับคืนสู่เส้นทางการเมือง คำตอบของการตัดสินใจอยู่ที่การเลือกตั้งครั้งหน้า และผู้ที่ตัดสินใจต้องรับผิดชอบร่วมกัน จึงขอให้ทุกคนร่วมมือกันสร้างเอกภาพ

“ผมและนายกชาย (นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค) เข้าไปเป็นรัฐมนตรี ท่ามกลางคำปรามาสว่าจะไปโกงประเทศชาติ หาเงินทอง หาประโยชน์ ผมขอยืนยันว่าผมมีสำนึก และยืนยันว่าจะไม่มีวันเกิดเหตุการณ์อย่างนี้เด็ดขาด ผมไม่บ้าจี้อย่างที่เขากล่าวหา ผมมีสติ ผมรักประชาธิปัตย์ ไม่มีวันทำให้ประชาธิปัตย์เสื่อมเสีย ถ้ามีข่าวเรื่องพวกนี้ผมก็อยู่ไม่ได้ จะกลายเป็นคนเนรคุณทันที โดย 24 ปี กับการที่ประชาธิปัตย์ให้ผมมีที่ยืนตรงนี้ เรียกว่าใช้หนี้บุญคุณไม่หมด และไม่มีวันใช้หมด” นายเฉลิมชัยกล่าวย้ำ

นายเฉลิมชัย ในฐานะหัวหน้าพรรคคนที่ 9 ยังย้ำถึงการยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และหลักการความซื่อสัตย์ สุจริต สิ่งที่อยากเห็นที่สุดคือ “ประชาธิปไตยสุจริต” โดยเชิญชวนประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่เขต 8 จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้มาร่วมกันสร้างให้จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นจุดเริ่มต้นของประชาธิปไตยสุจริตของไทย พร้อมขอบคุณอดีตหัวหน้าพรรคทุกคนที่ไปช่วยในการเลือกตั้งซ่อม และได้เห็นแล้วว่าพรรคทำประชาธิปไตยสุจริตจริงๆ

ในด้านการขับเคลื่อนพรรค จะให้ความสำคัญกับสมาชิกพรรคและ “คนรุ่นใหม่” เปิดโอกาสให้เข้ามาทำงานและเติบโตในเส้นทางการเมือง เชื่อว่าจะมีคนรุ่นใหม่มาร่วมงานมากขึ้น และในการเลือกตั้งปี 2570 พรรคประชาธิปัตย์จะพร้อม มีผู้สมัครรับเลือกตั้งครบทุกจังหวัด โดยมีเป้าหมายตามยุทธศาสตร์คือ “ชนะการเลือกตั้ง”

“สิ่งที่คนโจมตีประชาธิปัตย์ โจมตีผม หรือคนของเรา ทางการสื่อสารบอกได้ว่า เราอยู่ในความสนใจของเขาแล้ว ถ้าเขาไม่พูด ไม่โจมตีเลย แปลว่าเราไม่มีคุณค่า ไม่เห็นเราอยู่ในสายตา แต่เมื่อโดนโจมตีแล้ว เราก็ต้องทำตัวเองให้ดี” นายเฉลิมชัยกล่าวทิ้งท้าย พร้อมยืนยันความมั่นใจว่าตนเอง เลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารชุดนี้ จะนำพาพรรคเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *