ประธาน กมธ.กิจการสภา แจงปมโรงหนัง 4D ในรัฐสภา ยันไม่ใช่เอนเตอร์เทน แต่เป็นศูนย์เรียนรู้ประวัติศาสตร์การเมือง ดึงดูดคนรุ่นใหม่

รัฐสภา – เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2568 นายประเสริฐ บุญเรือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดกาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการสภา สภาผู้แทนราษฎร ได้ให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรกถึงกรณีการเสนอให้มีการสร้างโรงภาพยนตร์ระบบ 4 มิติ (4D) ขึ้นภายในอาคารรัฐสภา ซึ่งประเด็นดังกล่าวได้รับความสนใจและมีการแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวางในสังคมออนไลน์

นายประเสริฐ ชี้แจงว่า จุดประสงค์หลักของการเสนอแนวคิดนี้ คือการต้องการให้สภาผู้แทนราษฎรเป็น ‘สภาที่เปิดเต็มรูปแบบ’ ในความหมายของการเป็น ‘ศูนย์การเรียนรู้’ สำหรับพี่น้องประชาชนโดยแท้จริง

“รัฐสภาของเราสร้างขึ้นมาด้วยเม็ดเงินมหาศาล 2-3 หมื่นล้านบาท เราจึงอยากให้พี่น้องประชาชนได้เข้ามาเรียนรู้ ถือเป็นจุดประสงค์หลัก ถ้าเปิดมาแล้วต้องการสร้างแรงจูงใจให้คนได้เรียนรู้ในรูปแบบของมิติ ทั้งการฉายสื่ออิเล็กทรอนิกส์ สารสนเทศ ทำเป็นลักษณะนี้ด้วย ก็เลยมีการอธิบาย เขียนคำของบประมาณออกมาในรูปแบบของ 4D ซึ่งผมก็เพิ่งเห็นข้อมูลบางเรื่อง” นายประเสริฐ กล่าว

นายประเสริฐ ยืนยันว่า แนวคิดดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างจากการสร้างโรงภาพยนตร์เพื่อความบันเทิงทั่วไปโดยสิ้นเชิง โดยเน้นย้ำว่าเนื้อหาที่จะนำมาจัดแสดงในรูปแบบ 4D จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ ‘ประวัติศาสตร์ทางการเมือง’ ระบบการเมือง และความเป็นไปของโลกในอนาคต ไม่ใช่ภาพยนตร์เพื่อความสนุกสนานเพลิดเพลิน

ประธาน กมธ.กิจการสภา ยอมรับว่า แนวคิดบางส่วนได้มาจากการศึกษาดูงานที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมาธิการฯ ที่มีนายนิติพล ผิวเหมาะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เป็นประธาน ไปดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ว่า รูปแบบการนำเสนอในลักษณะดังกล่าวจะสามารถนำมาปรับใช้กับรัฐสภาเพื่อเป็นสถานที่เรียนรู้ศึกษาประวัติศาสตร์ทางการเมืองและประชาธิปไตยได้หรือไม่

“เราอยากให้สภาเป็นของพี่น้องประชาชนจริงๆ ซึ่งกรมเจ้าท่าก็บอกว่าจะทำท่าเรือให้ประชาชนขึ้นมายังรัฐสภา เราถึงบอกว่าถ้าเป็นท่าเทียบเรือแล้ว เวลาคนมาทัศนศึกษาทางน้ำตอนกลางคืน เราก็จะปรับรูปแบบสภาของเราให้สง่างามเหมาะสม เป็นองค์กรหนึ่งที่เป็นเสาหลักในการปกครองระบอบประชาธิปไตย เรื่องรายละเอียด ผมขอตอบในวันที่ 13 พฤษภาคม โดยผมจะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ” นายประเสริฐ กล่าว

สำหรับกรณีที่เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเคยกล่าวถึงประเด็นที่นายประเสริฐระบุว่า อยากเห็นเด็กนักเรียน ‘กรี๊ด’ เวลามาดูงานที่รัฐสภา นายประเสริฐ ชี้แจงว่า คำดังกล่าวเป็นการสื่อถึงการ ‘สร้างแรงจูงใจ’ ในรูปแบบหนึ่ง ยอมรับว่าการศึกษาดูงานแบบเดิมๆ ที่เพียงแค่เดินเรียงแถวเข้าไปในห้องประชุม แล้วยืนคำนับแล้วจบ อาจไม่สามารถสร้างแรงบันดาลใจหรือแรงดึงดูดให้กับเด็กนักเรียน นักศึกษา และผู้สนใจทางการเมืองได้อย่างเต็มที่ จึงต้องมีแนวคิดใหม่ๆ เพื่อให้การมาเยือนรัฐสภามีความน่าสนใจและกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้มากขึ้น

เมื่อถูกถามว่านอกจาก กฟผ. แล้ว ได้นำรูปแบบมาจากต่างประเทศ เช่น ฟินแลนด์ ด้วยหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า การศึกษาดูงานที่ฟินแลนด์เน้นในเรื่องของการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมากกว่า แต่ทุกอย่างก็มีความเชื่อมโยงกัน เนื่องจากรัฐสภาไทยเป็นหนึ่งในอาคารรัฐสภาที่ใหญ่และมีมูลค่าการก่อสร้างสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

นายประเสริฐ กล่าวทิ้งท้ายว่า สาเหตุที่ต้องใช้ระบบ 4D คือเพื่อให้นักเรียนที่มาทัศนศึกษาได้เห็นอะไรที่มากกว่าแค่ สส. ตีกันในห้องประชุม แต่จะได้เรียนรู้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์การเมืองที่น่าสนใจในรูปแบบที่ดึงดูดความสนใจได้มากกว่าการบรรยายเพียงอย่างเดียว

“ถ้ามีคนไปบรรยาย ถามจริงๆ ความสนใจของคนจะดึงได้ถึงขนาดไหน หรือเป็นการฉายเรื่องราวทางประวัติศาสตร์การเมือง เราจะเน้นในลักษณะนี้ ไม่ใช่จะบอกว่าเอาหนังมาฉายเป็นเอนเตอร์เทน บางคนก็ไม่เข้าใจ ไปแปลเป็นลักษณะของการพนันมากกว่า ผมเลยบอกว่าเราต้องเรียนรู้ อย่าไปดราม่า เราเรียนรู้ความเป็นจริงด้วย” นายประเสริฐ กล่าวปิดท้าย

นายประเสริฐ มีกำหนดจะแถลงข่าวอย่างละเอียดอีกครั้งในวันที่ 13 พฤษภาคมนี้ เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมและชี้แจงข้อสงสัยต่างๆ ที่เกิดขึ้น

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *