กรุงเทพฯ – วันที่ 22 เมษายน 2568 ณ โรงแรมปรินซ์ พาเลซ (มหานาค) เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาเพื่อรับฟังความคิดเห็นต่อเป้าหมายการพัฒนากรุงเทพมหานคร ตามโครงการจัดทำแผนปฏิบัติราชการกรุงเทพมหานคร ประจำปี พ.ศ. 2570

การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อรวบรวมข้อมูลและความคิดเห็นจากหลากหลายภาคส่วน ประกอบด้วย ข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญ ทั้งประเภทบริหาร อำนวยการ วิชาการ รวมถึงผู้แทนหน่วยงานการพาณิชย์ของ กทม. และผู้แทนภาคประชาสังคม โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ได้กรอบแนวทางที่ชัดเจนสำหรับจัดทำแผนปฏิบัติราชการและคำของบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2570

นายชัชชาติ ได้กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “ทิศทางยุทธศาสตร์การพัฒนากรุงเทพมหานคร ปี พ.ศ. 2570” โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการมีเป้าหมายและยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน ซึ่งจะนำไปสู่การให้บริการประชาชนที่ดียิ่งขึ้น และการทำงานที่คุ้มค่ากับภาษีของประชาชน พร้อมกล่าวเสริมว่า การกำหนดเป้าหมายเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง หากต้องการให้การทำงานตอบโจทย์ประชาชนได้อย่างเต็มที่ ต่างจากการทำงานแบบไปวันๆ ที่ขาดการพัฒนา

ผู้ว่าฯ กทม. ชี้ให้เห็นว่า ในการวางแผนจำเป็นต้องเริ่มจากการวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันของกรุงเทพมหานคร กำหนด Guiding Policy หรือนโยบายหลักคร่าวๆ จากนั้นจึงจัดทำ Action Plan ที่สอดคล้องกัน ซึ่งประกอบด้วย เนื้อหาว่าจะทำอะไร และเป้าหมายเชิงปริมาณว่าจะทำเท่าไหร่ นอกจากนี้ ยังต้องแยกแยะระหว่างยุทธศาสตร์ (Strategy) ซึ่งเป็นบทบาทของผู้บริหารในการกำหนดทิศทาง กับยุทธวิธี (Tactics) ซึ่งเป็นบทบาทของผู้ปฏิบัติในการหาวิธีการทำเมื่อมีสิ่งที่ต้องทำ โดยผู้บริหารต้องประเมินความสามารถของทีมงานเพื่อเลือกเส้นทางการพัฒนาที่เหมาะสม

นายชัชชาติกล่าวถึงสถานะของกรุงเทพฯ ในปัจจุบันว่า แม้จะเป็นเมืองที่มีคนมาเที่ยวมากที่สุดในโลก แต่กลับติดอันดับที่ 98 ของโลกในด้านความน่าอยู่ จาก 140 กว่าเมือง ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ เนื่องจากอนาคตของเมืองขึ้นอยู่กับความน่าอยู่และความสามารถในการดึงดูดคนเก่งๆ ให้เข้ามาอยู่ ท่านเปรียบเทียบกับเมืองเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์ ฮ่องกง และกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งกรุงเทพฯ ยังคงตามหลังในด้านความน่าอยู่ หากไม่ปรับปรุง อนาคตเราอาจแข่งขันไม่ได้

ปัญหาสำคัญที่ทำให้กรุงเทพฯ ยังขาดความน่าอยู่ ได้แก่ ปัญหาการจราจรที่ทำให้เสียเวลาไปมาก ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน และประสิทธิภาพในการทำงานที่ยังต่ำ ผู้ว่าฯ ชัชชาติกล่าวว่า กรุงเทพฯ อาจเป็นเมืองที่เน้นความสนุกสนาน น่าตื่นเต้น เร้าใจสำหรับนักท่องเที่ยว แต่ยังขาดประสิทธิภาพและประสิทธิผล ถึงเวลาแล้วที่จะต้องนำเทคโนโลยีมาปรับปรุงกระบวนการทำงานของราชการและ กทม. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ คุณภาพชีวิต และคุณภาพของเมือง

ในฐานะ Guiding Policy ผู้ว่าฯ ชัชชาติได้กล่าวถึง นโยบาย 9 ด้าน 9 ดี ของ กทม. โดยเชื่อว่าสิ่งที่ได้ดำเนินการผ่านมาอยู่ในทิศทางที่ถูกต้องแล้ว และเชิญชวนผู้เข้าร่วมสัมมนาให้แสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย หรือต้องการเพิ่มข้อมูลใด เพื่อให้ได้แผนที่เป็นผลจริงจังและสามารถเปลี่ยนเมืองให้ดีขึ้นได้

นายชัชชาติกล่าวทิ้งท้ายถึงกำลังใจจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นและมีคนชื่นชมในช่วงที่ผ่านมา เช่น ปัญหาน้ำท่วมลดลง ไฟสว่างขึ้น ฟุตปาธดีขึ้น และการให้บริการที่สำนักงานเขตดีขึ้น ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้ทุกคนตั้งใจทำงานให้ดียิ่งขึ้น พร้อมหวังว่าการดำเนินการในวันนี้จะประสบผลสำเร็จและเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน

โครงการจัดทำแผนปฏิบัติราชการกรุงเทพมหานคร ประจำปี พ.ศ. 2570 นี้ จัดทำโดยสำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล (สยป.) เพื่อให้ กทม. มีกรอบแนวทางการพัฒนาที่ชัดเจน เป็นระบบ และสอดคล้องกับความต้องการของประชาชน โดยการใช้ข้อมูลและความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนเป็นตัวขับเคลื่อน ซึ่งจะช่วยให้การพัฒนามีความสมดุล ยั่งยืน ครอบคลุมทั้งโครงสร้างพื้นฐาน สังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และมิติต่างๆ ที่ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง แผนดังกล่าวจะเป็นกรอบให้ทุกหน่วยงานในสังกัด กทม. นำไปใช้ในการจัดทำแผนปฏิบัติราชการประจำปีของตนเองอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการรายงานผลการปฏิบัติราชการแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์เมื่อสิ้นปีงบประมาณ