ชัชชาติ ยันประสานงานดีแล้วหลังปัญหาช่วงแรก พร้อมร่วมมือทุกหน่วยงานกู้ซากตึกสตง.
เมื่อเวลา 12.15 น. วันที่ 18 เม.ย.2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. เปิดเผยภายหลังเข้าพบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อรายงานกรณีตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม ว่า วันนี้นายกฯเรียกมาถามว่า หน้างานขาดเหลืออะไรหรือไม่ ต้องการความช่วยเหลืออะไรเพิ่มเติมหรือไม่
ตนได้กล่าวกับนายกฯว่า ทุกอย่างเรียบร้อยดี ทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ให้ความร่วมมืออย่างดี ตั้งแต่ทหาร กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ส่วนภาคเอกชน ซึ่งเป็นมูลมิธิต่างๆ ผู้ประกอบการรถแบ็กโฮ รถเครน ให้ความร่วมมืออย่างดี ตนเรียนนายกฯว่า ไม่มีข้อติดขัด และเราพร้อมให้ความร่วมมือในการเก็บหลักฐานต่างๆ วันนี้รายงานความคืบหน้าให้นายกฯรับทราบ โดยนายกฯเป็นห่วงและติดตามเรื่องนี้มาตลอด
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีกระแสข่าวว่าตำรวจไม่ได้รับความร่วมมือจาก กทม.จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ นายชัชชาติ กล่าวว่า จริงๆ ไม่ได้มีอะไร เราให้ความร่วมมือตลอด แต่อาจเป็นสัปดาห์แรกที่มีเรื่องต้องแข่งกับเวลา ตอนนั้นยังมีคนที่เราคิดว่ารอดชีวิตอยู่ข้างใน ช่วงสัปดาห์แรก อาจมีเรื่องการสื่อสาร แต่ตอนนี้ไม่มีปัญหา เรียบร้อย
ตอนนี้มีหน่วยงานหลักคือ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่เป็นคณะกรรมการที่นายกฯได้แต่งตั้งในการสอบสวน มีการประสานงานที่ดี และมีเจ้าหน้าที่คอยประจำอยู่ หากต้องการหลักฐานอะไร เราพร้อมให้ความร่วมมือทุกอย่าง
เมื่อถามว่านายกฯได้สอบถามเรื่องนี้หรือไม่ นายชัชชาติ กล่าวว่า นายกฯ สอบถามว่า มีปัญหาอะไรหรือไม่ ซึ่งเราได้อธิบายให้ฟัง ช่วงแรกมีปัญหาเรื่องการสื่อสารบ้างในช่วงสัปดาห์แรก ทุกคนอยากทำให้เต็มที่ เพราะมีเรื่องเวลาเข้ามา แต่ตอนนี้เข้าใจกันดี และได้ประสานงานกันตลอด
เมื่อถามว่าหลังจากนี้หากหน่วยงานตรวจสอบจะเข้าพื้นที่เก็บหลักฐาน ต้องใช้เวลาประสานกับ กทม.นานหรือไม่ นายชัชชาติ กล่าวว่า ไม่นาน ตอนนี้แจ้งเข้ามาได้ มีเจ้าหน้าที่และผู้อำนวยการที่อยู่หน้างานอยู่แล้ว พร้อมให้ความร่วมมือ
หากไปดูหน้างานตอนนี้ สภาพเหมือนตึกถล่ม แทบไม่รู้ว่าชิ้นไหนเป็นชิ้นไหน ตนจึงแนะนำว่าให้มานั่งดูหน้าไซต์งาน อาจดูจากโดรนว่าต้องการชิ้นไหนก็แจ้งเดี๋ยวนั้นแล้วไปเอาเดี๋ยวนั้นเลยจะดีกว่า เพราะกระบวนการรื้อซากเพื่อหาผู้ที่ติดค้างอยู่ เป็นกระบวนการต่อเนื่อง บางทีอาจมีชิ้นส่วนที่ต้องการโผล่ออกมา แจ้งเดี๋ยวนั้นเลยเพื่อที่จะหยุดและหยิบออกมาได้เลย ขณะนี้ให้ความร่วมมือกัน ไม่ได้มีปัญหา
เมื่อถามถึงกรณีหลายคนโฟกัสไปยังจุดผนังปล่องลิฟท์ ตอนนี้ได้พบปล่องลิฟท์แล้วใช่หรือไม่ว่าอยู่จุดไหน นายชัชชาติ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ได้เจอ ซึ่งเป็นจุดที่เราหามานานคือ จุด FT1 และ FT2 เป็นจุดปล่องซ้ายและปล่องขวา ที่เราเห็นและมั่นใจเพราะเราเห็นป้าย ที่บอกชั้น 18 เพราะป้ายยังติดอยู่ที่ปล่องบันได และพบร่างผู้เสียชีวิตหลายร่าง ทางซ้ายพบ 3 ร่าง ทางขวาพบ 4-5 ร่าง เดี๋ยวรอคอนเฟิร์ม
ทำให้เราเห็นกลุ่มใหญ่อยู่ตรง 2 จุดนี้ เป็นจุดที่เข้าใจว่าเป็นทางหนีลง ซึ่งอาคารมี 30 กว่าชั้น และชั้นบนส่วนใหญ่จะหนีไม่ทันเพราะตึกมันโยกมาก ชั้นล่างอาจเริ่มหนีเข้าบันไดหนีไฟได้ ก็จะเจอเป็นกลุ่ม ทำให้เราต้องโฟกัสในจุดนี้เยอะขึ้น ทั้งนี้ โดยสภาพปล่องลิฟท์ที่พบไม่คงสภาพ เป็นคอนกรีตที่มันพังหมดแล้ว แต่เราทราบเพราะเห็นตัวราวจับบันไดและเห็นขั้นบันไดบ้าง และอาจมีป้ายบอก แต่ไม่คงสภาพปล่องลิฟท์ ทุกอย่างเป็นคอนกรีตที่มันทับกันหมดแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าดีเอสไอได้ประสานเก็บข้อมูลเพิ่มเติม หรือเก็บหลักฐานตัวปล่องลิฟท์หรือไม่ ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า เข้าใจว่าดีเอสไอไม่ได้ดู แต่คุยกับรมว.ยุติธรรม ในเรื่องของแง่สัญญามากกว่า แต่ตัวหลักฐาน เข้าใจว่าเป็นของกรมโยธาฯที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ก็เข้ามาดู และเรามีอีก 2 วิธี อาจเข้าไปเก็บในไซต์งานเลย เช่น คอริ่งคอนกรีตชิ้นที่ต้องการ หรือต้องการชิ้นส่วนไหนเราจะแยกไปเก็บให้ที่โซนรถไฟ เพราะท่านจะได้แยกชิ้นนี้เป็นหลักฐานชัดเจน
เมื่อถามว่าในฐานะที่มีความรู้ด้านวิศวกรรม หลักฐานที่พบในพื้นที่หน้างานเสื่อมสภาพแล้วหรือยัง ทั้งปูนซีเมนต์และเหล็ก หรือได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) หรือไม่ ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า อันนี้ดูยาก เพราะสภาพมีความวิกฤตหรือพังไปแล้ว ประเด็นที่สำคัญคือ ไม่รู้ว่ามาจากชิ้นส่วนไหน สิ่งที่เราเห็นไม่รู้ว่ามาจากคานหรือพื้น หรือจากตรงไหน จะทำให้ลำบากในการวัด
แต่เราต้องเคารพการตัดสิน จะเก็บข้อมูลก็เก็บไปก่อนได้ ดีแล้ว เพราะจะใช้หรือไม่ใช้ในอนาคตเก็บไว้ก่อนก็ได้ หากไม่เก็บไว้ สุดท้ายจะไม่มีอะไรในอนาคต แต่สภาพค่อนข้างพังไปแล้ว
เมื่อถามว่านายกฯ ได้สั่งให้กันคนที่เกี่ยวข้องไม่ให้เข้ามาในไซต์งานหรือไม่ ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า อันนี้คงแล้วแต่รายชื่อ เพราะทุกคนที่เข้ามาในไซต์มีรายชื่อหมด ไม่สามารถเข้ามาโดยอิสระ จะมีหน่วยคัดกรองอยู่ด้านหน้า และหากไม่ให้ใครเข้าก็แจ้งมาและกันออกได้ แต่คนที่เข้ามาคือคนที่เกี่ยวข้องทั้งนั้น กรมโยธาฯที่เข้ามาเป็นในส่วนของคณะกรรมการสอบสวน เพราะปกติกรมโยธาฯ ไม่ได้มีส่วนร่วมรื้อถอน หากจะเข้ามาต้องเป็นคณะกรรมการ แต่หากไม่ให้เข้าก็ต้องแจ้งรายชื่อ เพราะเราไม่ทราบ
เมื่อถามถึงกรณีมีการกันสำนักการโยธา กทม. ไม่ให้มีส่วนเกี่ยวข้องในการตรวจสอบ ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า สำนักการโยธา ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน เพราะตึกนี้ไม่ได้ขออนุญาตทางกทม. อาจพูดถึงกรมโยธาธิการและผังเมืองเป็นหลัก ส่วนรายชื่อที่จะเข้าหรือไม่ให้เข้าพื้นที่ เราก็ยินดีหากมีรายชื่อมา ไม่มีปัญหา เพราะทุกคนต้องมีระบบคัดกรองเข้ามาอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าเดดไลน์การรื้อซากอาคารทันสิ้นเดือน เม.ย.หรือไม่ ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า ตนว่าก้าวหน้าไปได้ดี ทุกคนพยายามท้าทายตัวเองตลอด พยายามเอาทุกคนกลับบ้านให้เร็วที่สุด แต่มีหลายมิติที่เกี่ยวข้อง อย่างเช้าวันนี้ (18 เม.ย.) เจอร่างเยอะ ทำให้เราต้องหยุดการทำงานของเครื่องจักรหนักไป5 ชั่วโมง
จริงๆ แล้วถ้ารื้ออย่างเดียวไม่กี่วันก็เสร็จ แต่ถ้ารื้อด้วยและค้นหาผู้ที่ติดอยู่ในอาคารด้วยอาจมีปัญหาเรื่องเวลา แต่เชื่อว่าเป้าหมายปลายเดือน เม.ย.ต้องเห็นความก้าวหน้าไปอย่างมาก