ผู้การฯ ฉะเชิงเทรา สั่งฟันไม่เลี้ยง! ร.ต.อ. เมาซิ่งรถตำรวจ ชน จยย. ชาวบ้านเจ็บหนัก คาหน้าบ้าน

ฉะเชิงเทรา – ผู้การฯ แปดริ้วเดือด สั่งการเด็ดขาดให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายกับ ร.ต.อ. สังกัด สภ.วังคู ที่เมาแล้วขับรถกระบะตำรวจชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างของชาวบ้านที่จอดอยู่หน้าบ้านอย่างแรง จนเจ้าของบ้านบาดเจ็บสาหัส ขณะที่ชาวบ้านเผยคลิปกล้องวงจรปิด วิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมชนแล้วไม่จอดช่วยเหลืออย่างหนัก

วันที่ 6 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 11.00 น. พล.ต.ต.เกรียงไกร บุญซ้อน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา (ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา) ได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลพุทธโสธร อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อเข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บของ นางสาวสุรีย์นิภา จ้ำนอก อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถกระบะตำรวจสายตรวจเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างที่จอดอยู่บริเวณหน้าบ้านพักริมถนนในพื้นที่หมู่ 15 ตำบลทุ่งพระยา อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงค่ำของวันที่ 5 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

พล.ต.ต.เกรียงไกร บุญซ้อน กล่าวเน้นย้ำกับคณะพนักงานสอบสวนที่ร่วมเดินทางมาด้วย ให้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานในคดีนี้อย่างตรงไปตรงมา โปร่งใส และให้ความเป็นธรรมกับผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่ โดยได้สั่งการให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ก่อเหตุ คือ ร้อยตำรวจเอก สังกัดสถานีตำรวจภูธรวังคู ตำแหน่งรองสารวัตรปราบปราม ซึ่งมีพฤติกรรมที่ชัดเจนว่าอยู่ในอาการเมาสุราขณะขับขี่รถยนต์ของทางราชการจนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น

ด้าน พ.ต.อ.ภูวดล พิสุทธินรเศรษฐ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรวังคู (ผกก.สภ.วังคู) ได้เปิดเผยถึงรายละเอียดของเหตุการณ์ที่ได้รับรายงานว่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 20.50 น. ของคืนวันที่ 5 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ออกตรวจที่เกิดเหตุทันทีที่ได้รับแจ้ง เมื่อไปถึงพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้างยี่ห้อฮอนด้า หมายเลขทะเบียน กมว 628 ฉะเชิงเทรา ล้มตะแคงอยู่ริมถนน สภาพตัวพ่วงข้างชี้ขึ้นฟ้า มีเศษกระจังหน้ารถแตกกระจายเกลื่อนพื้น แต่ไม่พบตัวผู้บาดเจ็บในที่เกิดเหตุ เนื่องจากมีพลเมืองดีได้ให้การช่วยเหลือและนำตัวส่งโรงพยาบาลไปก่อนแล้ว พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการถ่ายภาพที่เกิดเหตุ ทำแผนที่เกิดเหตุ และรวบรวมพยานหลักฐานในเบื้องต้นทันที

ต่อมาในเวลาประมาณ 22.30 น. ของคืนวันเดียวกัน ร้อยตำรวจเอกศักดิ์สิทธิ์ (นามสมมติ) ตำแหน่ง รอง สวป. สภ.วังคู ได้เดินทางเข้ามาพบพนักงานสอบสวนที่ สภ.วังคู และแสดงตนว่าเป็นผู้ขับขี่รถยนต์ของทางราชการคันที่ก่อเหตุ พนักงานสอบสวนจึงได้ทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายด้วยเครื่องเป่าลมหายใจ ซึ่งผลการตรวจวัดพบปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง 79 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จึงได้ทำการสอบสวนปากคำและแจ้งข้อกล่าวหาเบื้องต้นให้ทราบในข้อหา “ขับรถในขณะเมาสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่น โดยประมาทเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย และเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับอันตรายแก่ร่างกาย” โดยพนักงานสอบสวนจะได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้มีประชาชนในพื้นที่และในโลกออนไลน์จำนวนมากได้ทำการแชร์คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพเหตุการณ์ขณะที่รถยนต์กระบะตำรวจสายตรวจ สภ.วังคู ได้ขับเฉี่ยวชนเข้ากับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างของชาวบ้านที่จอดอยู่ริมถนนอย่างรุนแรง ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางถึงพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจนายดังกล่าว ที่ขับรถด้วยความประมาทในขณะเมาสุรา และที่สำคัญคือ ไม่ยอมจอดรถลงมาให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บในที่เกิดเหตุ แต่กลับขับรถออกไป สร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก.