คลี่คลายดราม่าทริปฮ่องกง: ‘คารีสา’ และ ‘เอแคลร์ จือปาก’ ชี้แจงหลังถูกทัวร์ลง
กรุงเทพฯ – จากกรณีที่เป็นประเด็นร้อนบนโลกออนไลน์ เมื่อนักร้อง นักแสดง และนางแบบสาวมากความสามารถอย่าง คารีสา สปริงเก็ตต์ ได้ไปร่วมออกรายการ EAT อีส มารูอ้วย | EP.136 ทางช่อง YouTube ของนักร้องสาวตัวแม่ เอิ้ก ชาลิสา เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2568 และได้มีการเล่าถึงเหตุการณ์ในทริปฮ่องกง ซึ่งมีเพื่อนร่วมทริปคือ เอแคลร์ จือปาก อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง
ในช่วงหนึ่งของรายการ คารีสาได้เล่าถึงพฤติกรรมของเอแคลร์ในทริปดังกล่าวในลักษณะที่ดูเหมือนถูกแกล้งหนัก และบางครั้งถูกโยนความผิดให้ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากชาวเน็ตจำนวนมาก ที่เข้ามาแสดงความเห็นโจมตี เอแคลร์ จือปาก ใต้คลิปรายการ มองว่าพฤติกรรมดังกล่าวไม่เหมาะสมและไม่น่ารัก
ภายหลังจากที่เกิดกระแสทัวร์ลงอย่างหนัก เอแคลร์ จือปาก ได้รีบออกมาชี้แจงด้วยตนเองผ่านคอมเมนต์ใต้คลิปรายการทันที โดยระบุว่า เหตุการณ์ที่คารีสาเล่าในรายการนั้นเป็นเพียง “ซีนตลก” และอยากให้ทุกคนรอดูคลิป VLOG ทริปฮ่องกงฉบับเต็ม ซึ่งจะเห็นภาพรวมและความสนุกสนานในทริปมากกว่า พร้อมย้ำว่าในรายการ คารีสาอาจจะเล่าด้วยหน้านิ่ง ๆ แบบดารา แต่ตัวจริงแล้วคารีสาเป็นคนโก๊ะและเหตุการณ์จริงนั้นตลกมาก ไม่ได้มีเจตนาแกล้งกันจริงจังจนเป็นเรื่องเป็นราว
ล่าสุด คารีสา สปริงเก็ตต์ ก็ได้ออกมาชี้แจงเพิ่มเติมเพื่อสยบดราม่าที่เกิดขึ้น โดยยืนยันว่า เรื่องราวในทริปฮ่องกงที่เล่าไปนั้นไม่ได้มีเจตนาดูถูกหรือโจมตีเอแคลร์แต่อย่างใด เพียงแค่เป็นการเล่าเรื่องตามสไตล์ที่อาจจะดูหน้านิ่ง ทำให้คนตีความไปคนละแบบ
เธอยอมรับว่าเอแคลร์เป็นคนขี้แกล้งจริง ๆ แกล้งจนบางทีเกือบจะร้องไห้ แต่ก็เป็นความแกล้งที่สร้างเสียงหัวเราะและความสุขให้กับเธอมาก และย้ำว่าหลังจากกลับจากทริป ทั้งคู่ก็ยังคงพูดคุยและวางแผนที่จะไปเที่ยวทริปอื่น ๆ ด้วยกันอีก แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่สนิทสนมและไม่มีปัญหากันจริง ๆ เธอรักเอแคลร์ และมีความสุขมากที่ได้อยู่กับเอแคลร์
คารีสายังกล่าวชื่นชม พี่แม็ก ซึ่งเป็นพี่ชายของเอแคลร์ ว่าเป็นคนที่น่ารักมาก ช่วยดูแลและพร้อมช่วยเหลือเธออยู่เสมอ นอกจากนี้ เธอยังฝากข้อคิดถึงชาวเน็ตว่า อย่าตัดสินคนจากอดีต ให้โฟกัสที่การกระทำและความสำเร็จในปัจจุบัน เพื่อย้ำว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพียงความเข้าใจผิดและไม่มีดราม่าระหว่างเธอกับเอแคลร์
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางการชี้แจงของทั้งคู่ กระแสความเห็นของชาวเน็ตยังคงมีหลากหลาย บางส่วนยังคงวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของอินฟลูเอนเซอร์สาวเอแคลร์ว่าไม่ควรทำกับเพื่อนเช่นนั้น ในขณะที่อีกส่วนหนึ่งมองว่า ทั้งสองเป็นเพื่อนที่สนิทกัน การออกมาเล่าเรื่องเป็นเพียงเชิงตลกขบขัน และชาวเน็ตบางคนอาจจะ “อิน” หรือ “คิดแทน” เกินไป จนนำไปสู่การสร้างดราม่าขึ้นมาเอง ซึ่งความคิดเห็นส่วนใหญ่ไปในทิศทางที่เข้าใจว่าเป็นการแซวกันเล่นระหว่างเพื่อนสนิท และชาวเน็ตไม่ควรด่วนตัดสิน
เหตุการณ์นี้ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงพลังและผลกระทบของโซเชียลมีเดีย ที่สามารถสร้างกระแสได้อย่างรวดเร็ว แม้เรื่องราวที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพียงการพูดคุยหยอกล้อกันระหว่างเพื่อน แต่เมื่อถูกนำเสนอผ่านสื่อสาธารณะ ก็อาจเกิดการตีความและส่งผลกระทบที่ไม่คาดคิดตามมาได้