กรุงเทพฯ – คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงที่เสนอโดยกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง ซึ่งถือเป็นการปรับปรุงกฎหมายครั้งสำคัญเพื่อลดข้อจำกัดในการเข้าสู่ธุรกิจและส่งเสริมการประกอบธุรกิจของผู้ผลิตสุรารายใหม่ โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อยในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวงฉบับนี้มุ่งเน้นการขยายโอกาสให้กับผู้ผลิต โดยเฉพาะกลุ่มโรงเบียร์ เบียร์สด และคราฟต์เบียร์ ให้สามารถบรรจุเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในถังขนาดเล็กเพื่อจำหน่ายนอกสถานที่ผลิตได้ ซึ่งเดิมมีข้อจำกัดอยู่มาก

นอกจากนี้ ยังมีการผ่อนปรนข้อกำหนดด้านสถานที่ตั้งโรงงานสำหรับผู้ผลิตขนาดเล็กและขนาดกลาง โดยอนุญาตให้โรงงานสามารถตั้งอยู่ห่างจากแหล่งน้ำสาธารณะน้อยกว่า 100 เมตรได้ หากมีการติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียที่มีประสิทธิภาพตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ประเด็นสำคัญอีกข้อคือ การเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพและมีคุณสมบัติครบถ้วน สามารถยื่นขอใบอนุญาตจัดตั้งโรงงานผลิตสุราขนาดกลางได้ทันที โดยไม่ต้องเริ่มต้นจากการเป็นโรงงานขนาดเล็กและรอครบระยะเวลา 1 ปีเหมือนกฎเดิม ซึ่งจะช่วยเร่งการเติบโตและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้า

รัฐบาลได้ชี้แจงถึงเจตนารมณ์ของการปรับแก้กฎหมายครั้งนี้ว่า เพื่อเป็นการยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการรายย่อย สร้างงาน สร้างรายได้ในระดับชุมชน และส่งเสริมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทยในฐานะซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศ

ทั้งนี้ การอนุมัติหลักการดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่คณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ได้มีมติแก้ไขปรับปรุงกฎหมายการขายแอลกอฮอล์ให้สอดคล้องกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยปี 2568 ไปก่อนหน้านี้ โดยอนุญาตให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันพระใหญ่ได้ใน 5 สถานที่ที่กำหนด ได้แก่ ภายในอาคารผู้โดยสารสนามบินนานาชาติ, สถานบริการตามกฎหมาย, สถานที่คล้ายสถานบริการในแหล่งท่องเที่ยว (ตามกำหนด), โรงแรม, และสถานที่จัดกิจกรรมพิเศษระดับชาติ/นานาชาติ ซึ่งการผ่อนปรนการขายใน 5 สถานที่นี้ ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ช่วงวันวิสาขบูชาที่ผ่านมา และเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่พบข้อร้องเรียนผลกระทบตามมา

การอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกรมสรรพสามิตครั้งล่าสุดนี้ จึงถือเป็นการก้าวไปอีกขั้นในการสนับสนุนอุตสาหกรรมสุราและคราฟต์เบียร์ของไทย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตรายย่อยและสุราชุมชน ซึ่งรัฐบาลระบุว่าจะมีการพิจารณาปลดล็อกข้อจำกัดอื่นๆ เพิ่มเติมอีกในอนาคตอันใกล้

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการกินดื่มทั่วโลก และหลายประเทศสามารถยกระดับเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล การผ่อนปรนกฎหมายในครั้งนี้คาดว่าจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการไทย อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมีมาตรการควบคุมควบคู่กันไปด้วย เพื่อป้องกันผลกระทบด้านสังคมและสุขภาพที่อาจตามมา