ครม.อนุมัติงบกลาง 2,049 ล้านบาท ให้คมนาคม ฟื้นฟูถนนเสียหายจากอุทกภัยใน 17 จังหวัด
ทำเนียบรัฐบาล – เมื่อเวลา 11.35 น. วันที่ 6 พฤษภาคม 2568 ณ ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่สำคัญในวันนี้ โดยระบุว่า ที่ประชุม ครม. ได้มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงคมนาคม ในการขอจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
ทั้งนี้ งบประมาณที่ได้รับการอนุมัติในครั้งนี้ มีวงเงินทั้งสิ้น 2,049.69 ล้านบาท มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อนำไปใช้ในการฟื้นฟูและซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งถนนที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเหตุการณ์อุทกภัยและภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ในพื้นที่ต่างๆ
พื้นที่เป้าหมายในการฟื้นฟูครั้งนี้ ครอบคลุมพื้นที่ใน 17 จังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่ จังหวัดเชียงราย, แม่ฮ่องสอน, เชียงใหม่, พะเยา, ลำปาง, แพร่, น่าน, อุตรดิตถ์, ตาก, สุโขทัย, พิษณุโลก, เลย, ภูเก็ต, ยะลา, อุดรธานี, หนองคาย, และกาญจนบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดที่ประสบปัญหาความเสียหายต่อเส้นทางคมนาคมอย่างรุนแรง
นางสาวแพทองธาร กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการฟื้นฟูนี้จะดำเนินการโดยกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงคมนาคม ที่มีภารกิจโดยตรงในการดูแลและบำรุงรักษาโครงข่ายถนนทั่วประเทศ การจัดสรรงบประมาณในครั้งนี้ ถือเป็นความจำเป็นเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนผู้ใช้เส้นทางสัญจร รวมถึงภาคการขนส่งและโลจิสติกส์ ที่ได้รับผลกระทบจากการชำรุดของถนน
ผลกระทบจากอุทกภัยและภัยพิบัติในหลายพื้นที่ทำให้ถนนหลายสาย ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางหลักหรือเส้นทางรองในชนบท ได้รับความเสียหาย ทั้งผิวจราจร สะพาน คอสะพาน หรือโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ส่งผลให้การเดินทางของประชาชนเป็นไปด้วยความยากลำบาก ใช้เวลานานขึ้น มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และยังส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในพื้นที่
การอนุมัติงบกลางจำนวนกว่า 2 พันล้านบาทนี้ จึงเป็นการตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างทันท่วงที เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถเข้าดำเนินการสำรวจความเสียหาย ประเมินค่าใช้จ่าย และเร่งดำเนินการซ่อมแซม ฟื้นฟู ให้โครงข่ายคมนาคมกลับมาใช้งานได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ และการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตและการฟื้นฟูเศรษฐกิจในระดับพื้นที่ การจัดสรรงบประมาณในครั้งนี้ คาดว่าจะช่วยให้ประชาชนใน 17 จังหวัดดังกล่าว สามารถกลับมาใช้เส้นทางสัญจรได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบายมากขึ้น เป็นการสนับสนุนการฟื้นตัวทั้งด้านสังคมและเศรษฐกิจในระยะต่อไป