ปราสาทสายฟ้าถล่มยับ! บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทะลุชิงรีโว่ คัพ 2024-25 เดินหน้าล่า 4 แชมป์

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไม่ปล่อยโอกาสทองหลุดมือ เปิดฉากถล่ม หนองบัว พิชญ เอฟซี ขาดลอย 7-0 ในศึกฟุตบอลรีโว่ คัพ รอบรองชนะเลิศ คว้าตั๋วเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ พร้อมยังคงอยู่ในเส้นทางของการลุ้นสร้างประวัติศาสตร์คว้า 4 แชมป์ในฤดูกาลเดียว

การแข่งขันฟุตบอลรีโว่ คัพ ฤดูกาล 2024-25 รอบรองชนะเลิศ เมื่อค่ำวันที่ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ณ สนามแพท สเตเดียม เป็นการโคจรมาพบกันระหว่าง “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์ไทยลีก 1 ทีมล่าสุด และยังคงอยู่ในฟอร์มที่ร้อนแรง พบกับ “พญาไก่ชน” หนองบัว พิชญ เอฟซี

เริ่มเกมมาเพียงแค่ 5 นาที กองเชียร์ปราสาทสายฟ้าก็ได้เฮก่อน เมื่อ รัตนากรณ์ ใหม่คามิ กองกลางตัวเก่ง ได้จังหวะซัดบอลตุงตาข่าย ส่งให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0

จากนั้นเกมรุกของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก็ยิ่งทวีความดุดัน นาทีที่ 11 ณฐกร รัตนสุวรรณ โชว์ฟอร์มโดดเด่น ยิงประตูที่สองให้กับทีม และอีกเพียงแค่ 2 นาทีถัดมา ในนาทีที่ 13 ณฐกร รัตนสุวรรณ ก็จัดการยิงประตูที่สองของตัวเองในเกมนี้ ทำให้สกอร์ขยับเป็น 3-0 อย่างรวดเร็ว

ก่อนหมดเวลาการแข่งขันในครึ่งแรก นาทีที่ 45+2 มาร์ติน โบอากี กองหน้าชาวกานา ก็มายิงประตูเพิ่มให้ปราสาทสายฟ้านำห่างออกไปอีก จบครึ่งแรก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นำ หนองบัว พิชญ เอฟซี ขาดลอยถึง 4-0

กลับมาในครึ่งหลัง รูปเกมยังคงเป็นของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นาทีที่ 58 มาร์ติน โบอากี ก็ไม่พลาดโอกาส ยิงประตูที่สองของตัวเองในเกมนี้ ส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่าย ช่วยให้ทีมหนีห่างเป็น 5-0

เกมรุกยังไม่หยุดแค่นั้น นาทีที่ 79 เสกสรรค์ ราตรี ดาวรุ่งของทีม ก็ยิงประตูที่หกให้กับปราสาทสายฟ้า ทำให้สกอร์ไหลไปไกลถึง 6-0

และในช่วงท้ายเกม นาทีที่ 89 กิลเยร์เม บิสโซลี กองหน้าชาวบราซิล ก็มายิงประตูปิดท้ายอย่างสวยงาม ส่งให้จบเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เอาชนะ หนองบัว พิชญ เอฟซี ไปอย่างท่วมท้นด้วยสกอร์ 7-0

จากชัยชนะอันเด็ดขาดในนัดนี้ ทำให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตีตั๋วผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอลรีโว่ คัพ ฤดูกาล 2024-25 ได้สำเร็จ โดยจะเข้าไปพบกับ “ราชันโคขาว” ลำพูน วอริเออร์ ซึ่งเอาชนะ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด มาได้ก่อนหน้านี้

สำหรับนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลรีโว่ คัพ จะมีขึ้นในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ การเข้าชิงชนะเลิศในครั้งนี้ ยังคงทำให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อยู่ในเส้นทางการลุ้นคว้า 4 แชมป์ในฤดูกาลเดียวได้อย่างเต็มตัว ต่อจากแชมป์ไทยลีกที่คว้ามาได้แล้ว ยังมีถ้วยรีโว่ คัพ ที่ผ่านเข้าสู่รอบชิง, แชมป์สโมสรอาเซียน ซึ่งต้องรอแข่งขันนัดชิงชนะเลิศ นัดที่สอง และฟุตบอลช้าง เอฟเอ คัพ ที่ยังคงอยู่ในรอบการแข่งขัน

ฟอร์มการเล่นที่แข็งแกร่งและเฉียบคมในนัดนี้ แสดงให้เห็นถึงความพร้อมของ “ปราสาทสายฟ้า” ในการเดินหน้าล่าความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร