นาทีชีวิต! หนุ่มบุรีรัมย์ถูกแท่นบังคับแบคโฮทับร่างดับคารถ หัวหน้าเผยสาเหตุคาดเคลื่อนที่ผิดวิธี

สมุทรปราการ – ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยนาทีสุดสลด พนักงานสนามกอล์ฟชาวจังหวัดบุรีรัมย์ วัย 41 ปี ถูกแท่นบังคับบุ้งกี๋แบคโฮทับร่างเสียชีวิตคาที่ ขณะนั่งทำงานบนรถ หัวหน้าคนงานชี้สาเหตุเบื้องต้น คาดผู้เสียชีวิตอาจใช้วิธีเคลื่อนย้ายรถโดยการกดบุ้งกี๋ดันพื้นแทนการขับเคลื่อนตามปกติ ทำให้แท่นบังคับยกตัวขึ้นมาบีบอัดร่าง โดยบริษัทเตรียมประสานงานประกันสังคมและประกันบริษัท เพื่อเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่

เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานเหตุการณ์อุบัติเหตุสลดที่เกิดขึ้นภายในบริเวณสนามกอล์ฟแห่งหนึ่งในอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ โดยภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพนาทีชีวิตของ นายพนมยงค์ (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นพนักงานของสนามกอล์ฟดังกล่าว ขณะกำลังนั่งปฏิบัติงานอยู่ที่เบาะแท่นบังคับระบบไฮดรอลิคของรถไถขนาดเล็กที่ติดตั้งบุ้งกี๋แบคโฮ เพื่อใช้ในการขุดร่องน้ำ

จากภาพวงจรปิดเผยให้เห็นจังหวะที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน แท่นบังคับระบบไฮดรอลิคได้ยกตัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน แล้วบีบอัดร่างของนายพนมยงค์เข้ากับโครงหลังคาและเบาะที่นั่งด้านหลังอย่างรุนแรง ทำให้โครงเหล็กค้ำคอและร่างถูกอัดแน่นจนแน่นิ่งไป เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและขณะนั้นไม่มีเพื่อนร่วมงานคนอื่นอยู่ในบริเวณดังกล่าว

หลังเกิดเหตุเพียงไม่นาน ภาพจากกล้องวงจรปิดอีกมุมหนึ่งแสดงให้เห็นภาพเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งขับรถกระบะเข้ามาพบเห็นเหตุการณ์ ถึงกับตกใจกับภาพที่เห็นว่านายพนมยงค์ถูกแท่นบังคับไฮดรอลิคกดทับอยู่บนรถ จึงรีบขับรถออกไปตามเพื่อนร่วมงานและหัวหน้า เพื่อขอความช่วยเหลือ โดยได้มีการนำรถขุดคันอื่นมาช่วยงัดแท่นบังคับออก เพื่อดึงร่างของนายพนมยงค์ออกมา และพยายามทำการปั๊มหัวใจเพื่อยื้อชีวิตในระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่กู้ชีพ แต่ก็ไม่เป็นผล เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 09.30 น. ของวันที่ 2 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

ศูนย์สั่งการกู้ชีพปราการ ได้รับแจ้งเหตุและประสานอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบว่า นายพนมยงค์ ได้เสียชีวิตแล้ว โดยมีบาดแผลจากการถูกกดทับอย่างรุนแรงบริเวณกลางอก เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานงานไปยัง พ.ต.ท. สุนทราพร จาตูม สว. (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรบางพลี พร้อมด้วยแพทย์นิติเวชจากสถาบันรามาจักรีนฤบดินทร์ เพื่อเข้าตรวจสอบชันสูตรพลิกศพ ณ ที่เกิดเหตุ

จากการสอบถาม นายธีรวัส (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานและเป็นผู้ที่มาพบร่างของนายพนมยงค์เป็นคนแรก ได้เล่าว่า ตนเอง ผู้เสียชีวิต และเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ได้พากันมาช่วยกันขุดร่องเพื่อวางแนวท่อระบบส่งน้ำ ขณะที่ผู้ตายกำลังใช้รถขุดทำงานตามปกติ ตนเองและเพื่อนอีกคนได้ขับรถกระบะออกไปเอาของข้างนอก พอกลับเข้ามาก็พบว่าผู้ตายถูกหนีบแล้ว ตอนนั้นรู้สึกตกใจมากและทำอะไรไม่ถูก เนื่องจากตนเองไม่มีความรู้เรื่องระบบไฮดรอลิคของรถ จึงตัดสินใจรีบออกไปตามหัวหน้าคนงานและเพื่อนร่วมงานอีกหลายคนมาช่วยกัน แต่ก็ไม่สามารถดึงร่างของผู้ตายออกมาได้ เนื่องจากถูกหนีบทับแน่นมาก จึงจำเป็นต้องใช้รถขุดอีกคันมากดที่แท่นบังคับเพื่อช่วยงัดออก ก่อนจะสามารถดึงร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้ ซึ่งทุกคนก็ได้พยายามช่วยกันปั๊มหัวใจแล้วแต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้

ทางด้านหัวหน้าดูแลคนงาน ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูรถคันที่เกิดเหตุพร้อมอธิบายการทำงาน โดยกล่าวว่า ตามปกติได้มีการตรวจเช็คสภาพและอุปกรณ์การใช้งานของรถตามวงรอบอยู่เสมอ และจากการตรวจสอบเบื้องต้น ตัวรถไม่ได้มีปัญหาขัดข้องของระบบไฮดรอลิคแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ สันนิษฐานว่า น่าจะมาจากการที่ผู้ตายกำลังนั่งอยู่ที่เบาะด้านหลัง เพื่อบังคับบุ้งกี๋ และในจังหวะที่ต้องการจะขยับรถเดินหน้าเพื่อขุดร่องต่อไป ผู้ตายอาจไม่ได้ลงจากรถเพื่อไปขึ้นเบาะคนขับแล้วขับเคลื่อนรถตามปกติ แต่คาดว่าอาจจะใช้วิธีกดบุ้งกี๋ลงพื้นแล้วดันตัวรถไปข้างหน้าแทน ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจทำให้แท่นบังคับยกตัวขึ้นอย่างรวดเร็วและหนีบดันตัวผู้ตายบีบอัดเข้ากับโครงหลังคาและเบาะรถจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต

หัวหน้าคนงานยืนยันว่า เหตุการณ์นี้ถือเป็นอุบัติเหตุในงาน ทางบริษัทได้แจ้งเรื่องไปยังประกันสังคมและประกันของบริษัท เพื่อดำเนินการเรื่องเงินชดเชยตามสิทธิ์ ซึ่งจะมีการชดเชยเพิ่มเติมจากทางบริษัทอีกส่วนหนึ่ง โดยบริษัทพร้อมจะช่วยเหลือทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่และเหมาะสม

สำหรับร่างของผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ได้นำส่งไปชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งที่นิติเวช เพื่อหาสาเหตุการตายที่แน่ชัด ก่อนจะประสานญาติให้มาดำเนินการรับศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *