วิกฤตแบรนด์หรู: Burberry ประกาศปลดพนักงาน 1,700 คนทั่วโลก หลังขาดทุนหนัก
ลอนดอน – Burberry แบรนด์แฟชั่นหรูชื่อดังระดับโลกจากสหราชอาณาจักร ประกาศแผนการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ ซึ่งรวมถึงการเตรียมเลิกจ้างพนักงานกว่า 1,700 ตำแหน่งทั่วโลก หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ 18 ของจำนวนพนักงานทั้งหมด การดำเนินการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อลดต้นทุนและพลิกฟื้นผลประกอบการ หลังจากบริษัทต้องเผชิญภาวะขาดทุนอย่างหนักในปีงบประมาณที่ผ่านมา
รายงานผลประกอบการล่าสุดของ Burberry เผยให้เห็นตัวเลขขาดทุนสุทธิถึง 66 ล้านปอนด์ (หรือประมาณ 3,000 ล้านบาท) ในปีงบประมาณล่าสุด ซึ่งเป็นภาพที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากปีก่อนหน้าที่ทำกำไรได้ถึง 418 ล้านปอนด์ (หรือประมาณ 19,000 ล้านบาท) ขณะที่รายได้ของบริษัทลดลงไปถึง 17 เปอร์เซ็นต์ เหลือเพียง 2,500 ล้านปอนด์ (หรือประมาณ 115,000 ล้านบาท) ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายทางเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ชะลอตัวลง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุตสาหกรรมสินค้าฟุ่มเฟือย
แผนการลดจำนวนพนักงานในครั้งนี้ คาดว่าจะช่วยให้ Burberry สามารถลดต้นทุนการดำเนินงานลงได้ประมาณ 100 ล้านปอนด์ (หรือประมาณ 4,600 ล้านบาท) ต่อปี ตามแผนระยะยาวของบริษัท ประธานบริหารของ Burberry กล่าวว่า “การเปลี่ยนแปลงองค์กรในครั้งนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้แน่ใจว่า Burberry พร้อมสำหรับอนาคต และสามารถสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนและมีกำไรได้ในระยะยาว”
การปรับลดตำแหน่งงานส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในส่วนของพนักงานสำนักงาน (Office Staff) ทั่วโลก อย่างไรก็ตาม แผนการนี้ยังรวมถึงพนักงานในร้านค้าบางส่วน และพนักงานในโรงงานผลิตของ Burberry ที่เมือง Castleford ในสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นฐานการผลิตหลักแห่งหนึ่งของบริษัท
สำหรับโรงงานที่ Castleford นั้น บริษัทมีแผนจะยกเลิกการทำงานกะกลางคืน และปรับเวลาเปิด-ปิดร้านค้าให้สอดคล้องกับช่วงเวลาที่มีลูกค้าเข้าใช้บริการมากที่สุด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน
แม้จะมีการลดจำนวนพนักงานในสหราชอาณาจักร แต่ประธานบริหารของ Burberry ยืนยันว่า แผนการดังกล่าวมีขึ้นเพื่อ “ปกป้องการผลิตในสหราชอาณาจักร” และบริษัทมีแผนที่จะลงทุนครั้งใหญ่ในโรงงาน Castleford ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เพื่อปรับปรุงกระบวนการผลิตและเพิ่มศักยภาพ
“เป็นเวลานานแล้วที่โรงงานในสหราชอาณาจักรของเรามีกำลังการผลิตเกินความจำเป็น ซึ่งในขณะนี้ไม่สามารถดำเนินการได้อย่างยั่งยืน” ประธานบริหารกล่าวเสริม โดยชี้ให้เห็นถึงปัญหาการผลิตที่เกินความต้องการของตลาดมาเป็นเวลานาน
สถานการณ์ของ Burberry สะท้อนให้เห็นถึงภาพรวมของหลายอุตสาหกรรมที่กำลังเผชิญความท้าทายทางเศรษฐกิจ ก่อนหน้านี้ มีรายงานข่าวเกี่ยวกับบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่อื่นๆ ที่ประกาศปรับลดพนักงานเพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจเช่นกัน อาทิ Panasonic บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติญี่ปุ่น ที่ประกาศเตรียมเลิกจ้างพนักงานถึง 10,000 ตำแหน่งทั่วโลก เพื่อเร่งปรับโครงสร้างองค์กร และ Nissan ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากญี่ปุ่น ที่มีแผนปลดพนักงานเพิ่มอีก 11,000 คน ส่งผลให้ยอดรวมการปลดพนักงานของ Nissan ในช่วงเวลาดังกล่าวสูงถึงกว่า 20,000 ตำแหน่ง
การปลดพนักงานจำนวนมากในบริษัทระดับโลกเหล่านี้ ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มการปรับตัวครั้งใหญ่ของภาคธุรกิจ เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน