พ่อค้าควายผวา! มือมืดปาระเบิดลูกเกลี้ยงใส่บ้านกลางดึก วัวควายกระเจิง รถพัง 3 คัน
วันที่ 10 เม.ย.2568 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากบังหมัด อายุ 32 ปี ว่าที่บ้านถูกคนร้ายลอบปาระเบิดเข้ามาในบ้าน เมื่อเวลา 04.51 น. วันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา บริเวณบ้านพัก หมู่ 1 ต.พระยาบรรลือ อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา
โดยกล้องวงจรปิดบันทึกภาพและเสียง คนร้ายชายต้องสงสัยเดินมาถึงหน้าคอกควาย ก่อนขว้างระเบิดลูกเกลี้ยง 2 ลูกเข้าใส่บ้าน เสียงระเบิดดังสนั่น ทำวัวควายในคอกแตกตื่น กระจกหน้าต่างแตกละเอียดทุกบาน รถยนต์ 3 คันที่จอดอยู่ได้รับความเสียหาย ยางระเบิด หลังคาโรงจอดรถเป็นรูพรุน
บังหมัด พาผู้สื่อข่าว สำรวจตรวจสอบร่องรอยความเสียหาย ของรถยนต์ ตัวบ้าน กระจกหน้าต่าง แอร์ และหลุมลึกจุดที่ลูกระเบิดตก พร้อมเปิดเผยนาทีระทึกให้ฟังว่า ขณะเกิดเหตุตนออกไปส่งวัวให้ลูกค้า มีภรรยา ลูก และแม่ที่เป็นผู้สูงอายุ อาศัยอยู่ภายในบ้าน ภรรยาตกใจโทรมาแจ้งว่ามีคนร้ายปาระเบิดใส่บ้าน รีบกลับมาพบความเสียหายอย่างมาก จึงเปิดกล้องวงจรปิดดู พบมีชายต้องสงสัยเดินวนเวียนหน้าคอกควาย บริเวณหน้าบ้าน แล้วขว้างระเบิดสองลูกใส่เข้ามาถึง 2 ครั้งติดต่อกัน
จากนั้นคนร้ายก็เดินออกไป ซึ่งตนเองก็ไม่ทราบว่าใช้ยานพาหนะอะไร เนื่องจากบริเวณจุดที่คนร้ายยืน เป็นจุดที่มืดมาก แต่ในส่วนของตนเองนั้นไม่ทราบสาเหตุจริงๆว่าเกิดจากอะไร เนื่องจากตนเองมั่นใจว่าไม่มีศัตรูที่ไหน ค้าขายวัวควายมากว่า 15 ปี ก็ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางอะไรกับใคร จึงไม่รู้จะสงสัยใคร
และตอนนี้ตนและคนในครอบครัว หวาดผวากับเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างมาก จึงอยากวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามตัวคนร้าย มาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด เนื่องจากหากยังจับตัวคนร้ายไม่ได้ ตนเองและคนในครอบครัวก็ยังคงนอนไม่หลับ หวาดระแวง ว่าคนร้ายจะย้อนกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก
ขณะที่ น.ส.นัจญวา ภรรยาของบังหมัด เล่าว่า ขณะนอนหลับกับลูกและแม่ ได้ยินเสียงระเบิด 2 ครั้ง ตอนแรกคิดว่าเป็นปั๊มลมระเบิด แต่เมื่อเดินตรวจสอบกลับพบหลุมระเบิดหน้าบ้าน และไปพบสลักระเบิดตกอยู่ จึงมั่นใจว่าเป็นการลอบปาอาวุธสงครามเข้าใส่บ้าน จึงรีบโทรไปแจ้งสามี แต่อย่างไรก็ตาม ครอบครัวก็ยังรู้สึกไม่สบายใจ หากเจ้าหน้าที่ตำรวจยังจับตัวไม่ได้ จึงอยากขอให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้โดยเร็วที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลาดบัวหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุแล้ว เร่งรวบรวมหลักฐาน ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว