ช็อก! จระเข้บึงสีไฟตายเน่าคาบ่อ ผ่าพิสูจน์พบปอดติดเชื้อ รองผู้ว่าฯพิจิตร ลงพื้นที่สั่งเร่งฟื้นฟู-แก้ปัญหาแออัด

พิจิตร – จากกรณีที่นักท่องเที่ยวที่เข้าชมบ่อเพาะเลี้ยงจระเข้ภายในบึงสีไฟ จังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัด ได้พบกับภาพที่น่าหดหู่ใจ เมื่อมีจระเข้ตัวหนึ่งเสียชีวิตและซากเริ่มเน่าเปื่อยส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งอยู่ในบ่อเดียวกันกับจระเข้ตัวอื่นๆ ซึ่งบางตัวมีการแทะกินซาก ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์และความกังวลถึงการดูแลจัดการบ่อจระเข้แห่งนี้

ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2568 น.ส.ธนียา นัยพินิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้มอบหมายให้นายธนิต ภูมิถาวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ลงพื้นที่พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดพิจิตร กรมประมง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร่งด่วน

นายธนิต ภูมิถาวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ตรวจสอบว่า เหตุการณ์ที่จระเข้ตายเน่าคาบ่อตามที่เป็นข่าวออกไปนั้นเป็นเรื่องจริง และส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของบึงสีไฟเป็นอย่างมาก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำซากจระเข้ที่เสียชีวิตไปทำการผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุการตาย

ผลการตรวจพิสูจน์เบื้องต้นพบว่า จระเข้ตัวดังกล่าวมีอาการปอดติดเชื้อ ซึ่งภาวะติดเชื้อที่ปอดนี้ทำให้จระเข้อ่อนแอลงอย่างมาก และอาจเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตได้ นอกจากนี้ ตามสัญชาตญาณของจระเข้เมื่อมีตัวใดตัวหนึ่งอ่อนแอหรือตาย ก็อาจถูกจระเข้ตัวอื่นที่แข็งแรงกว่ากัดกินซากได้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ซากเสียหายและส่งกลิ่นเหม็นอย่างรวดเร็ว

รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรกล่าวต่อไปว่า ปัญหาสำคัญอีกประการที่ตรวจพบคือ สภาพความแออัดภายในบ่อเพาะเลี้ยงจระเข้แห่งนี้ บ่อดังกล่าวถูกออกแบบมาเพื่อรองรับจระเข้ได้ประมาณ 60 ตัว แต่ปัจจุบันมีจระเข้ที่เลี้ยงรวมกันอยู่มากถึง 122 ตัว จระเข้เหล่านี้มาจากหลากหลายแหล่ง ทั้งที่หลุดมาจากบึงธรรมชาติ สถานที่เลี้ยงที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือเป็นของกลางที่ถูกยึดมา ทำให้จำนวนจระเข้เกินความสามารถที่บ่อจะรองรับได้ถึงเท่าตัว สภาพความแออัดนี้อาจก่อให้เกิดความเครียดในจระเข้ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง และเสี่ยงต่อการติดเชื้อต่างๆ ได้ง่ายขึ้น

สำหรับการแก้ไขปัญหาระยะยาว ทางจังหวัดพิจิตรได้ประสานงานกับศูนย์ประมงน้ำจืดในพื้นที่อื่นๆ เช่น จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งกำลังดำเนินการก่อสร้างบ่อเพาะเลี้ยงแห่งใหม่ เพื่อพิจารณาความเป็นไปได้ในการกระจายจระเข้บางส่วนจากบึงสีไฟออกไปลดความหนาแน่น

ในส่วนของบ่อเพาะเลี้ยงจระเข้บึงสีไฟเอง ปัจจุบันอยู่ระหว่างการปรับปรุงซ่อมแซมโดยผู้รับจ้าง เพื่อยกระดับให้มีมาตรฐานที่แข็งแรงขึ้น และจะมีการติดตั้งระบบการถ่ายเทน้ำแบบอัตโนมัติเพื่อช่วยรักษาความสะอาดของน้ำในบ่อให้ดียิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่การปรับปรุงยังไม่แล้วเสร็จและยังไม่มีการส่งมอบงานจากผู้รับเหมา ทางรองผู้ว่าราชการจังหวัดได้กำชับเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดพิจิตรให้เพิ่มความเข้มงวดในการดูแล โดยให้ใช้เครื่องสูบน้ำทำการถ่ายเทน้ำภายในบ่ออย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อป้องกันน้ำเน่าเสีย ลดกลิ่นเหม็น และรักษาความสะอาด ตลอดจนให้ดูแลเรื่องการให้อาหารตามระบบ และเพิ่มความรอบคอบในการตรวจตราดูแลจระเข้ให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น

นายธนิต ภูมิถาวร ย้ำว่า การดำเนินการทั้งหมดนี้มีเป้าหมายหลักเพื่อฟื้นฟูบึงสีไฟให้กลับมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม ปลอดภัย และน่าประทับใจสำหรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลดีต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจในรูปแบบต่างๆ ของจังหวัดพิจิตรต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *