หนองคาย – 15 พฤษภาคม 2568 – เป็นเหตุการณ์ที่สร้างความตกใจให้กับประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก เมื่อช่วงที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย ได้รับแจ้งเหตุพบศพลอยมาตามกระแสน้ำในแม่น้ำโขง และได้ลอยมาติดอยู่ที่บริเวณท่าน้ำบ้านใหม่ทรายทอง หมู่ 14 ตำบลกุดบง อำเภอโพนพิสัย

หลังได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ ร้อยตำรวจเอก วิราชาญ สุ่มมาตย์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.โพนพิสัย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ประสานไปยังแพทย์เวรโรงพยาบาลโพนพิสัย และเจ้าหน้าที่กู้ภัยชบา 191 โพนพิสัย ให้รีบรุดเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุทันที

ณ จุดที่พบศพ ซึ่งลอยมาเกยตื้นอยู่ริมตลิ่ง เจ้าหน้าที่พบภาพที่น่าสยดสยองและชวนให้สงสัยในการเสียชีวิตอย่างยิ่ง ร่างผู้เสียชีวิตถูกห่อหุ้มอย่างมิดชิดด้วยแผ่นพลาสติกสีดำหลายชั้น จากนั้นถูกทับด้วยผ้าสแลนสีฟ้า-ขาวอีกชั้น และที่น่าตกใจคือ ร่างถูกมัดด้วยเชือกอย่างแน่นหนาติดกับเสาปูน ซึ่งคาดว่าถูกใช้เป็นน้ำหนักถ่วงเพื่ออำพรางศพไม่ให้ลอยขึ้นสู่ผิวน้ำ หรือให้จมอยู่ก้นแม่น้ำ

เมื่อเจ้าหน้าที่ร่วมกับแพทย์เวรและกู้ภัย ทำการแกะห่อหุ้มอันแน่นหนานั้นออก ก็พบว่าเป็นศพชาย 1 ราย สภาพศพขึ้นอืด เน่าเปื่อยอย่างรุนแรง ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ จากสภาพการณ์ที่พบ สันนิษฐานว่าผู้เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 สัปดาห์ ผู้เสียชีวิตสวมใส่เพียงกางเกงขายาวสีเข้มเพียงตัวเดียว

จากการตรวจสอบศพเบื้องต้นอย่างละเอียดโดยแพทย์เวร พบร่องรอยการถูกทำร้ายด้วยของมีคมหลายแห่งทั่วร่างกาย ทั้งแผลขนาดเล็กและขนาดใหญ่ รวมแล้วไม่น้อยกว่า 7 แผล ตำแหน่งบาดแผลได้แก่ ที่บริเวณลำคอมีบาดแผลถูกปาดด้วยของมีคมเป็นทางยาวรอบลำคอ และมีบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคมขนาดใหญ่ที่บริเวณหน้าท้องด้านขวาและชายโครงด้านขวา นอกจากนี้ ยังพบแผลถูกแทงที่บริเวณหน้าท้องและชายโครงรวม 4 แผล ที่ต้นแขนซ้าย 1 แผล และที่บริเวณหน้าผากอีก 1 แผล ซึ่งบาดแผลทั้งหมดบ่งชี้ว่าผู้เสียชีวิตถูกทำร้ายอย่างโหดเหี้ยมก่อนจะเสียชีวิต

สิ่งที่พบเพิ่มเติมคือ ที่นิ้วก้อยมือขวาของผู้เสียชีวิต ยังสวมแหวนทองเหลืองอยู่ 1 วง ซึ่งอาจเป็นหนึ่งในเบาะแสสำคัญในการระบุตัวตนผู้เสียชีวิต

ภายหลังจากการตรวจสอบเบื้องต้นในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ดำเนินการนำร่างผู้เสียชีวิตส่งต่อไปยังโรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อทำการชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง และเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อใช้ในการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิด รวมถึงการเร่งตรวจสอบเพื่อยืนยันอัตลักษณ์บุคคล และติดตามหาญาติของผู้เสียชีวิตต่อไป

ทางด้าน ร้อยตำรวจเอก วิราชาญ สุ่มมาตย์ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เปิดเผยว่า ในช่วงประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ยังไม่มีผู้ใดมาแจ้งความบุคคลสูญหายไว้ที่ สภ.โพนพิสัย แต่อย่างใด และยังไม่ได้รับการประสานงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เกี่ยวกับเหตุการณ์ประชาชนสูญหายหรืออุบัติเหตุทางน้ำ จึงขอประชาสัมพันธ์ถึงพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดหนองคายและใกล้เคียง หรือผู้ที่อาศัยอยู่ตามแนวแม่น้ำโขง หากผู้ใดมีญาติพี่น้อง หรือบุคคลใกล้ชิดที่สูญหายไปในช่วงเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา หรือมีเบาะแสข้อมูลใดๆ ที่อาจเป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนคดีนี้ สามารถติดต่อให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน สภ.โพนพิสัย ได้ทันที เพื่อร่วมกันคลี่คลายคดีฆาตกรรมอำพรางอันโหดเหี้ยมนี้ และนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย