สระบุรี – เกิดเหตุสะเทือนใจ สามีทำร้ายร่างกายภรรยาที่เพิ่งคลอดลูกได้เพียง 19 วันอย่างโหดเหี้ยมจนบาดเจ็บสาหัสและหมดสติ ขณะที่ครอบครัวผู้เสียหายยืนยันจะดำเนินคดีถึงที่สุดไม่ให้อภัย ด้านตำรวจ สภ.วิหารแดง เร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี

จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์คลิปวิดีโอพร้อมข้อความขอความช่วยเหลือ ให้ช่วยติดตามตัวผู้ชายที่ทำร้ายร่างกายพี่สาวตนเองอย่างรุนแรง ทั้งซ้อมนอกบ้านและลากเข้าไปซ้อมในห้องจนสลบ ก่อนจะหลบหนีไปเมื่อผู้ใหญ่บ้านเข้ามาระงับเหตุ โดยยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และจะไม่ละเว้นผู้ที่ให้ที่พักพิงแก่ผู้ก่อเหตุ

ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านเช่าในพื้นที่ ต.วิหารแดง อ.วิหารแดง จ.สระบุรี ซึ่งเป็นที่พักของผู้ได้รับบาดเจ็บ พบกับ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี กำลังนอนพักฟื้นและดูแลลูกชายวัย 19 วันอยู่บนเตียง โดยมีพ่อแม่และญาติพี่น้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิด จากการสังเกตพบว่าตามร่างกายของ น.ส.เอ มีร่องรอยฟกช้ำจากการถูกทำร้ายอยู่ทั่วบริเวณ

น.ส.เอ ผู้ได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองคบหากับ นายเอกชัย หรือตู่ อายุ 27 ปี มานานหลายปี และมีลูกด้วยกัน 2 คน คนโตอายุ 4 ขวบ ส่วนคนเล็กเพิ่งคลอดได้ 19 วัน ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนกำลังก่อไฟหุงข้าว ไม่ทราบสาเหตุว่านายเอกชัยไม่พอใจเรื่องใด จู่ๆ ก็เข้ามาเตะเข้าที่บริเวณก้านคอก่อน ตนจึงพยายามวิ่งหนีออกไปนอกบ้าน แต่นายเอกชัยก็ตามมารัดคอและถีบตนล้มลงอย่างแรงจนหมดสติไป หลังจากนั้นก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย

น.ส.เอ เล่าต่อว่า ตนเองมักจะถูกสามีทำร้ายร่างกายอยู่บ่อยครั้งทุกครั้งที่มีปากเสียงกัน แต่ครั้งนี้เป็นครั้งที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยโดนมา นอกจากนี้ นายเอกชัย สามีของตนก็มีพฤติกรรมเสพยาเสพติดด้วย

ด้าน นางสาธินี (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี แม่ของ น.ส.เอ กล่าวด้วยความเจ็บปวดว่า เมื่อได้เห็นคลิปที่ลูกสาวถูกทำร้าย รู้สึกเสียใจและโกรธมากจนพูดไม่ออก มันจุกอยู่ในอกไปหมด ยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับลูกเขยให้ถึงที่สุดโดยไม่มีการให้อภัยใดๆ ทั้งสิ้น สงสารลูกสาวมากที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ตนเองเคยเตือนลูกเขยแล้วว่าอย่าทำร้ายลูกสาวอีก ซึ่งเขาก็รับปากว่าจะไม่ทำ แต่สุดท้ายก็กลับมาก่อเหตุซ้ำอีก

ขณะที่ น.ส.สุพัตรา อายุ 33 ปี พี่สาวของ น.ส.เอ เสริมว่า น้องเขยคนนี้ชอบใช้กำลัง ตบตีน้องสาวตนเองเป็นประจำ เวลาน้องสาวถูกทำร้ายก็จะโทรมาบอกแม่ ซึ่งแม่ก็จะโทรมาบอกตนอีกทอดหนึ่ง แต่ตนก็ทำอะไรมากไม่ได้ เพราะน้องสาวเองก็ยังไม่เด็ดขาดที่จะเลิกกับเขา ถ้าเข้าไปยุ่งแล้วสุดท้ายเขากลับมาคืนดีกันอีก ก็เหมือนเสียเวลาไปเปล่าๆ

น.ส.สุพัตรา กล่าวอีกว่า น้องสาวตนถูกทำร้ายบ่อยมาก เขาสองคนอยู่ด้วยกันจนมีลูกคนโตอายุ 4 ขวบ แล้วก็เคยเลิกกันไปพักหนึ่ง ก่อนที่น้องเขยจะกลับมาง้อขอคืนดี แล้วก็กลับมาทำร้ายกันอีกซ้ำๆ แม้กระทั่งตอนที่น้องสาวกำลังตั้งท้อง ก็ยังถูกเตะทำร้ายร่างกาย พอคลอดลูกได้เพียง 18 วัน ก็กลับมาถูกทำร้ายอย่างหนักอีกครั้ง

ส่วน นายสมชาย ทับเนียม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.วิหารแดง ผู้ที่เข้าไปช่วยเหลือ กล่าวว่า ตนเองได้รับแจ้งจากลูกบ้านว่ามีเหตุทำร้ายร่างกายกันที่บ้านเช่าหลังดังกล่าว จึงได้ให้ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเข้าไปดูก่อน แต่ผู้ก่อเหตุยังไม่หยุด ตนจึงรีบตามไป พบว่าผู้ก่อเหตุกำลังลากผู้บาดเจ็บเข้าไปทำร้ายต่อภายในห้อง ตนจึงพยายามดันประตูเพื่อเข้าไปห้าม เมื่อผู้ก่อเหตุเห็นตน ก็รีบเปิดประตูหลังบ้านและวิ่งหลบหนีไปทันที

เบื้องต้น ทางด้าน ร.ต.อ.สุทิน ศรีอ่อน รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.วิหารแดง ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และเชิญตัวผู้ได้รับบาดเจ็บคือ น.ส.เอ ไปให้ปากคำและลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.วิหารแดง เพื่อเป็นหลักฐานในการเร่งติดตามตัว นายเอกชัย หรือตู่ ผู้ก่อเหตุ มาสอบสวนและดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป