BRN ออกแถลงการณ์เสียใจเหตุรุนแรงในปาตานี ย้ำจุดยืนไม่มุ่งเป้าพลเรือน พร้อมสู้ภายใต้กรอบสิทธิมนุษยชน
ปาตานีดารุสซาลาม – แนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติมลายูปาตานี หรือ BRN ได้ออกแถลงการณ์เป็นลายลักษณ์อักษรเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2568 แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ปาตานีดารุสซาลาม ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสูญเสียและการบาดเจ็บที่เกิดขึ้น
ในแถลงการณ์ดังกล่าว BRN ได้แสดงความเสียใจและเห็นใจอย่างยิ่งต่อครอบครัวและญาติมิตรของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรง พร้อมทั้งย้ำจุดยืนที่ชัดเจนและหนักแน่นว่า “เราไม่มีนโยบายโจมตีเป้าหมายที่เป็นพลเรือนโดยเด็ดขาด” คำยืนยันนี้มีขึ้นท่ามกลางความกังวลของสาธารณชนต่อสถานการณ์ความไม่สงบที่ยังคงเกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยเป็นระยะ
BRN ยังได้เน้นย้ำถึงหลักการพื้นฐานของการต่อสู้ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเสรีภาพและศักดิ์ศรีของประชาชนมลายูปาตานี โดยอ้างสิทธิ์ในการกำหนดอนาคตตนเอง (Self-determination) และยืนยันว่าจะดำเนินการต่อสู้ภายใต้กรอบของสิทธิมนุษยชนสากลและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด
แถลงการณ์ยังระบุถึงการปฏิเสธการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบที่พุ่งเป้าไปที่พลเรือนผู้บริสุทธิ์ และได้เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการสอบสวนเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม เพื่อนำผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรม
นอกจากนี้ BRN ยังได้เชิญชวนให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไทย หรือกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ ให้หลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ ที่อาจเป็นอันตรายหรือส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชน เพื่อให้พื้นที่สามารถกลับคืนสู่ความสงบสุขได้โดยเร็วที่สุด
ข้อความตอนหนึ่งในแถลงการณ์ได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า “การต่อสู้ของพวกเรามีเป้าหมายเพื่อเสรีภาพและศักดิ์ศรีของประชาชนปาตานี มิใช่เพื่อสร้างความหวาดกลัว หรือทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์” และปิดท้ายด้วยการเชิญชวนให้ทุกฝ่าย “ยืนหยัดร่วมกันด้วยสันติและปัญญา” ซึ่งสะท้อนถึงความพยายามที่จะสื่อสารไปยังสาธารณะและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด
แถลงการณ์ฉบับนี้ถูกเผยแพร่ออกมาในห้วงเวลาที่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงเผชิญกับสถานการณ์ความตึงเครียดและความไม่สงบเป็นระยะ แม้จะมีความพยายามในการเจรจาสันติภาพระหว่างตัวแทนรัฐบาลไทยกับกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ รวมถึง BRN เอง มาอย่างต่อเนื่องยาวนานตลอดหลายปีที่ผ่านมา การออกแถลงการณ์ครั้งนี้จึงถูกมองว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่สำคัญในการสื่อสารท่าทีและจุดยืนของ BRN ต่อสถานการณ์ปัจจุบันและความคาดหวังต่อกระบวนการยุติธรรมและสันติภาพในอนาคต