ตชด.ท่าอุเทน ทลายเครือข่ายขนยาเสพติด รวบยกแก๊ง 4 ผู้ต้องหา ยึดยาบ้า 200,000 เม็ด คาจุดนัดส่ง อ้างรับจากนายทุนลาว เตรียมกระจาย 3 จังหวัดอีสาน

นครพนม – ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม สนธิกำลังเข้าทลายเครือข่ายลักลอบขนยาเสพติด รวบผู้ต้องหาได้ยกแก๊ง 4 คน พร้อมของกลางยาบ้าล็อตใหญ่เกือบ 200,000 เม็ด คาจุดนัดส่ง ผู้ต้องหาสารภาพรับจ้างขนมาจากชาวลาว เตรียมนำไปกระจายในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคอีสาน

วันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ชายแดน โดยเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ได้รับรายงานจากสายข่าวว่า จะมีการนัดส่งมอบยาเสพติดจำนวนมากบริเวณจุดกลับรถใต้สะพานลำห้วยด่านชุม บ้านพนอมเหนือ หมู่ 5 ตำบลพนอม อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ในช่วงเย็นวันเดียวกัน

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้วางแผนและนำกำลังเข้าซุ่มสังเกตการณ์ในบริเวณดังกล่าวตั้งแต่เวลาประมาณ 18.00 น. กระทั่งเวลาประมาณ 20.00 น. ได้มีบุคคลต้องสงสัย 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาจอดบริเวณใต้สะพาน และนำวัตถุขนาดใหญ่ลักษณะคล้ายกระสอบปุ๋ยลงมาวางไว้ที่ตอม่อสะพาน เจ้าหน้าที่ซึ่งเฝ้าสังเกตการณ์อยู่จึงแสดงตัวเข้าควบคุมตัวไว้ได้ทันที ทราบชื่อคือ นายจิรสิน และนายวิศณุรักษ์

จากการตรวจสอบวัตถุที่นำมาวาง พบว่าเป็นกระสอบปุ๋ยสีฟ้า ภายในบรรจุยาบ้าจำนวนมาก เมื่อสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองคนในเบื้องต้น ให้การรับสารภาพว่าได้รับว่าจ้างจากชาวลาวคนหนึ่งชื่อ ‘ก้อง’ ให้ไปรับยาบ้ามาจากพื้นที่บ้านนากะเสริม ตำบลพนอม อำเภอท่าอุเทน และนำมาวางไว้ที่จุดดังกล่าวเพื่อรอให้คนมารับไปต่อ

เจ้าหน้าที่ยังคงควบคุมตัวนายจิรสินและนายวิศณุรักษ์ไว้อย่างใกล้ชิดบริเวณศาลาพักคอยผู้โดยสารในละแวกใกล้เคียง เพื่อรอจับกุมผู้ที่จะมารับยาบ้า กระทั่งเวลาประมาณ 20.10 น. ได้มีนายราตรี ขับขี่รถจักรยานยนต์บีบแตรเสียงดังเข้ามาจอดที่ศาลาพักคอย ด้วยอาการคล้ายมึนเมาสุรา เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้สอบถาม นายราตรี ยอมรับว่าได้รับว่าจ้างให้มาดูต้นทาง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนไว้

เวลาผ่านไปประมาณ 20.30 น. ได้มีโทรศัพท์เข้ามายังโทรศัพท์ของนายจิรสิน เพื่อสอบถามถึงจุดที่วางยาบ้า เจ้าหน้าที่จึงให้ความร่วมมือพร้อมกระจายกำลังเพื่อเตรียมจับกุมผู้ที่จะมารับยา

ต่อมาเวลาประมาณ 21.00 น. รถยนต์เก๋งต้องสงสัยได้ขับเข้ามาจอดบริเวณจุดที่วางกระสอบยาบ้าไว้ พบนายอิทธิวัฒน์ ได้เปิดประตูลงจากรถ และยกกระสอบยาบ้าของกลางนำไปไว้บริเวณประตูด้านหลังคนขับ เจ้าหน้าที่ที่ซุ่มอยู่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม แต่นายอิทธิวัฒน์ได้รีบวิ่งขึ้นรถและขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

เจ้าหน้าที่จึงขับรถไล่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิดเป็นระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร จนกระทั่งรถยนต์ของนายอิทธิวัฒน์เสียหลักพุ่งตกลงข้างทาง เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัวไว้ได้ สอบถามนายอิทธิวัฒน์ ยอมรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากชาวลาวอีกคนชื่อ ‘เป้’ ให้มารับยาบ้าล็อตนี้เพื่อนำไปกระจายต่อในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดมหาสารคาม และจังหวัดขอนแก่น

เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ประกอบด้วย นายจิรสิน, นายวิศณุรักษ์, นายราตรี, และนายอิทธิวัฒน์ พร้อมของกลางยาบ้าจำนวนประมาณ 200,000 เม็ด ไว้เป็นหลักฐาน พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย” ก่อนนำตัวผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมดส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทน จังหวัดนครพนม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.วุทธยา สิงห์กิ้ง ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23 กล่าวชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นผลมาจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลที่เน้นการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ชายแดน ภายใต้ปฏิบัติการ Seal Stop Safe และนโยบายเร่งด่วนด้านปราบปรามยาเสพติดของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน รวมถึงการสนับสนุนจากแม่ทัพภาคที่ 2 โดยทางกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 ได้เปิดปฏิบัติการพิทักษ์ริมน้ำโขง ซึ่งดำเนินการใน 3 ด้าน คือ ด้านการข่าว การลาดตระเวนเฝ้าตรวจชายแดน และการตั้งจุดตรวจจุดสกัดในจุดเสี่ยงต่างๆ ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ ทั้ง ตชด. กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตอุบลราชธานี (นบ.ยส.24 เดิม ซึ่งปัจจุบันอยู่ภายใต้ นรข.) ฝ่ายปกครอง และตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม เพื่อสกัดกั้นและป้องกันไม่ให้ยาเสพติดถูกนำเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *