โศกนาฏกรรมความรัก: แฟนหนุ่มดักยิงแฟนสาวดับสลด ตำรวจตามรวบทันควัน ลพบุรี
ลพบุรี – เกิดเหตุสะเทือนใจในพื้นที่ สภ.บ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี เมื่อชายหนุ่มดักรอแฟนสาวบริเวณหน้าบ้าน ก่อนใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงจนเสียชีวิต ขณะที่ฝ่ายหญิงเพิ่งเดินทางกลับจากร้านเสริมสวย ท่ามกลางความตกใจของเพื่อนที่มาด้วย ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุและเร่งไล่ล่าติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้ในเวลาต่อมา พร้อมอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 20.45 น. ของวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 พ.ต.อ.ศุภกร อ้นสุวรรณ ผู้กำกับการ สภ.บ้านหมี่ ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.บางกะพี้ อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกำลังรีบรุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางถึงที่เกิดเหตุ บริเวณทางเข้าบ้าน พบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน นครราชสีมา จอดอยู่ โดยที่กระจกด้านซ้ายของตัวรถ ซึ่งคาดว่าเป็นฝั่งที่ผู้เสียชีวิ นั่งมา พบร่องรอยของกระสุนปืนไม่ทราบขนาดจำนวน 2 รู ประตูรถฝั่งดังกล่าวเปิดอ้าอยู่ จากการตรวจสอบบริเวณพื้นใกล้เคียง พบปลอกกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 1 ปลอกตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐานสำคัญ
ในที่เกิดเหตุพบ น.ส.อรณิชา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นผู้บาดเจ็บสาหัส พลเมืองดีที่อยู่ในเหตุการณ์ได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลบ้านหมี่อย่างเร่งด่วน แต่ด้วยอาการสาหัส น.ส.อรณิชา ได้เสียชีวิตลงในเวลาต่อมา ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือนายกล้าณรงค์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของผู้เสียชีวิต หลังก่อเหตุ นายกล้าณรงค์ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปตามเส้นทางบ้านหมี่-โคกสำโรง
พ.ต.อ.ศุภกร ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.บ้านหมี่ ระดมกำลังออกติดตามไล่ล่าคนร้ายอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งประสานงานกับสถานีตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อช่วยกันสกัดจับคนร้าย จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพบชายต้องสงสัยพร้อมรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ทะเบียน สระบุรี กำลังขับวนเวียนอยู่ในบริเวณ ม.6 ต.โพนทอง อ.บ้านหมี่ ซึ่งมีลักษณะตรงกับที่ได้รับแจ้ง
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวและเข้าทำการตรวจค้น พบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38 ซึ่งไม่มีหมายเลขทะเบียน พร้อมกระสุนปืนขนาดเดียวกันอีก 3 นัด จากการตรวจสอบยืนยันได้ว่าบุคคลดังกล่าวคือนายกล้าณรงค์ ผู้ก่อเหตุจริง จึงได้ทำการควบคุมตัวมาสอบสวนปากคำที่ สภ.บ้านหมี่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่าในช่วงเวลาเกิดเหตุ น.ส.อรณิชา พร้อมเพื่อนรวม 3 คน ได้เดินทางกลับจากร้านเสริมสวย เมื่อมาถึงบริเวณปากทางเข้าบ้าน นายกล้าณรงค์ ซึ่งคาดว่าดักรออยู่ ได้เดินเข้ามาที่รถและพยายามกระชากเปิดประตูรถฝั่งที่ น.ส.อรณิชานั่งอยู่ แต่ผู้ตายพยายามขัดขืนและรั้งประตูไว้
สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็คือ นายกล้าณรงค์ได้ใช้อาวุธปืนที่เตรียมมายิงทะลุกระจกเข้ามา กระสุนนัดแรกถูกที่แขนของ น.ส.อรณิชา ก่อนที่กระสุนนัดที่สองจะเจาะเข้าที่บริเวณศีรษะ ทำให้ น.ส.อรณิชา ล้มฟุบลงในรถ ท่ามกลางเสียงกรีดร้องด้วยความตื่นตระหนกตกใจของเพื่อนๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ ญาติของ น.ส.อรณิชา ที่ทราบเรื่องได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้
ต่อมาในช่วงเช้าวันรุ่งขึ้น ญาติของนายกล้าณรงค์ รวมถึงแม่เลี้ยง ได้เดินทางมาที่ สภ.บ้านหมี่ เพื่อขอเข้าเยี่ยม โดยแม่เลี้ยงให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่ค่อยทราบเรื่องส่วนตัวของนายกล้าณรงค์มากนัก ปกติเขาจะไม่เล่าปัญหาอะไรให้ฟัง และไม่คิดว่าเขาจะกล้าลงมือก่อเหตุรุนแรงถึงขั้นทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตเช่นนี้
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลเปิดเผยว่า ก่อนลงมือก่อเหตุ นายกล้าณรงค์ ซึ่งมีฉายาว่า “โก๋กล้า พาเพลีย” ได้โพสต์ข้อความผ่านทางโซเชียลมีเดียในลักษณะตัดพ้อและอาฆาตหลายข้อความ อาทิ “กูเจอกูไม่เอาพวกมึงไว้แน่จำคำกูไว้เลย”, “ชีวิตกูกำหนดเองว่ามันจะจบแบบไหน กูเคยพูดแล้วถ้ามันจบให้มันจบที่ตัวเราเอง มันเริ่มที่เราให้มันจบที่เรา” และโพสต์สุดท้ายเมื่อกลางดึกก่อนถูกจับกุม ระบุว่า “รักทุกคนเลย” ซึ่งอาจเป็นข้อความที่บ่งชี้ถึงสภาพจิตใจก่อนเกิดเหตุสลด
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อนายกล้าณรงค์ ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.