แบงก์ชาติ เผยเศรษฐกิจไทย มี.ค. 68 ชะลอตัว จับตาความเสี่ยงการค้าโลกใกล้ชิด
กรุงเทพฯ – ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจไทยประจำเดือนมีนาคม 2568 พบว่า เศรษฐกิจโดยรวมมีการชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยมีปัจจัยสำคัญจากภาคบริการและกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวที่ลดลง
รายงานระบุว่า การชะลอตัวของภาคการท่องเที่ยวเป็นผลมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวกลุ่มประเทศมุสลิม เนื่องจากเดือนรอมฎอนในปีนี้มาเร็วกว่าปีก่อน ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวจีนยังคงหดตัวอยู่ แต่มีอัตราการหดตัวที่น้อยลงกว่าเดือนกุมภาพันธ์
ด้านการบริโภคภาคเอกชนก็มีการชะลอตัวลงเช่นกัน โดยเฉพาะการใช้จ่ายในหมวดบริการและสินค้าที่ไม่คงทน ในขณะที่การส่งออกสินค้าปรับลดลงตามการส่งออกโลหะมีค่าเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม การส่งออกโดยรวมยังอยู่ในระดับสูง เนื่องจากผู้ประกอบการมีการเร่งส่งออกสินค้าไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาก่อนหน้านี้ ส่วนการลงทุนภาคเอกชนก็ปรับลดลง โดยเฉพาะการลงทุนในหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์
ในมุมบวก รายงาน ธปท. ชี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมมีการปรับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในหมวดยานยนต์และหมวดฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) ขณะที่การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวดีขึ้น สอดคล้องกับการฟื้นตัวของวัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก และมีการเร่งส่งออกก่อนการประกาศนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่อาจมีขึ้นในอนาคต
สำหรับการใช้จ่ายภาครัฐยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งจากรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุนของรัฐบาลกลาง ด้านตลาดแรงงานโดยรวมปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย โดยพิจารณาจากสัดส่วนผู้ขอรับสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานทั้งรายเก่าและรายใหม่ต่อจำนวนผู้ประกันตนรวมที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ธปท. ระบุว่ายังคงต้องติดตามผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับตลาดแรงงานจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ และการชะลอตัวของภาคการท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด
ในส่วนของเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมีนาคม 2568 ปรับลดลงจากเดือนก่อนหน้า โดยมีปัจจัยหลักจากหมวดพลังงาน ซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันขายปลีกกลุ่มเบนซินที่ลดลงตามทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลก และค่าไฟฟ้าที่ลดลงเนื่องจากมาตรการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางของภาครัฐ
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานซึ่งไม่รวมหมวดอาหารสดและพลังงานก็ปรับลดลงเช่นกัน จากราคาอาหารสำเร็จรูป รวมถึงค่าของใช้ส่วนตัวและอุปกรณ์ซักล้าง ด้านดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลลดลงจากเดือนก่อนหน้า เนื่องจากดุลบริการ รายได้ และเงินโอน กลับมาขาดดุลเป็นสำคัญ
สำหรับค่าเงินบาท ในเดือนมีนาคม 2568 มีการเคลื่อนไหวทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ แต่ในเดือนเมษายน (ข้อมูลถึงวันที่ 25 เมษายน 2568) ค่าเงินบาทมีความผันผวนตามความเคลื่อนไหวของนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ซึ่งมีการประกาศเลื่อนการจัดเก็บภาษีนำเข้าสูงสุดออกไป 90 วัน ส่งผลให้ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้นในช่วงสั้นๆ
ธปท. ยังคงเน้นย้ำถึงการเฝ้าระวังปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะความไม่แน่นอนจากสถานการณ์การค้าโลก และผลกระทบจากนโยบายกีดกันทางการค้าของประเทศเศรษฐกิจหลัก ซึ่งอาจเป็นความท้าทายสำคัญต่อทิศทางเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป