แบงก์ชาติชี้ ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจ เม.ย.68 ลดลง ปัจจัยลบ ‘ภาษีสหรัฐฯ’ และ ‘แผ่นดินไหว’ ฉุด

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจไทย โดยหนึ่งในเครื่องชี้สำคัญคือ ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ (Business Confidence Index: BCI) ประจำเดือนเมษายน 2568 ซึ่งผลการสำรวจพบว่า ดัชนีฯ ได้ปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 47.1 จากเดือนมีนาคมที่อยู่ที่ 50.2 โดยการลดลงนี้เกิดขึ้นในเกือบทุกองค์ประกอบและหลายภาคธุรกิจ

จากการวิเคราะห์ของ ธปท. พบว่า ความเชื่อมั่นใน ภาคการผลิต ปรับลดลงมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในด้านปริมาณผลผลิต ส่วนหนึ่งเป็นผลจากปัจจัยเชิงฤดูกาลที่จำนวนวันทำการในเดือนเมษายนน้อยกว่าเดือนก่อน อย่างไรก็ตาม เมื่อขจัดผลกระทบตามฤดูกาลออกไปแล้ว ความเชื่อมั่นโดยรวมของภาคการผลิตยังถือว่าค่อนข้างทรงตัว แต่มีปัจจัยสำคัญที่เข้ามากดดัน คือ ความไม่ชัดเจนของมาตรการภาษีจากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อความเชื่อมั่นของธุรกิจที่เน้นการผลิตเพื่อส่งออกเป็นหลัก โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น กลุ่มผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มผลิตยางพาราแปรรูปและพลาสติก รวมถึงกลุ่มผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อาทิ เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น ยางล้อรถยนต์ เซมิคอนดักเตอร์ เม็ดพลาสติก และบรรจุภัณฑ์พลาสติก

ขณะที่ความเชื่อมั่นใน ภาคที่มิใช่การผลิต ก็มีการปรับลดลงในหลายหมวดธุรกิจเช่นกัน โดยเฉพาะในกลุ่ม อสังหาริมทรัพย์ ซึ่งความเชื่อมั่นปรับลดลงในทุกองค์ประกอบ ปัจจัยหลักมาจากผลกระทบของเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น ทำให้ในระยะสั้น ผู้ซื้อบางส่วนตัดสินใจชะลอการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะโครงการแนวสูงออกไปก่อน นอกจากนี้ กลุ่ม โรงแรมและร้านอาหาร ก็ยังคงมีความเชื่อมั่นปรับลดลงอย่างต่อเนื่องในทุกองค์ประกอบ โดยเฉพาะด้านคำสั่งซื้อและปริมาณการให้บริการ สาเหตุสำคัญมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ และยังต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ยังคงมีความกังวลด้านความปลอดภัย (safety concern) เมื่อเดินทางมาประเทศไทย

สำหรับแนวโน้มใน อีก 3 เดือนข้างหน้า ธปท. คาดการณ์ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวมจะยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดยปรับลดลงมาอยู่ที่ 48.9 และเป็นการลดลงในเกือบทุกองค์ประกอบและเกือบทุกหมวดธุรกิจ โดยกลุ่มที่น่ากังวลเป็นพิเศษยังคงเป็นกลุ่ม ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งความเชื่อมั่นด้านการผลิตและผลประกอบการปรับลดลงมาก คาดว่าจะเป็นผลกระทบที่ชัดเจนขึ้นจากการส่งออก หลังจากครบกำหนดระยะผ่อนผันของมาตรการภาษีตอบโต้จากสหรัฐอเมริกาในอีก 90 วันข้างหน้า และกลุ่ม โรงแรมและร้านอาหาร ที่ความเชื่อมั่นปรับลดลงมากในทุกองค์ประกอบ และทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นในหมวดนี้ลดลงมาอยู่ในระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่วนหนึ่งเกิดจากความกังวลด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวชาวจีน และอีกส่วนจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ซึ่งได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนของมาตรการภาษีตอบโต้จากสหรัฐฯ เช่นกัน

รายงานฉบับนี้ของ ธปท. ชี้ให้เห็นถึงปัจจัยเสี่ยงภายนอกและภายในประเทศที่ยังคงกดดันความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจไทย ทั้งประเด็นด้านนโยบายการค้าโลก ผลกระทบจากภัยธรรมชาติ และความท้าทายในการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ซึ่งภาครัฐและเอกชนต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเตรียมรับมือกับความผันผวนที่อาจเกิดขึ้น

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *