จันทบุรี – ชาวบ้านที่ออกมาเดินเล่นยามเช้าบริเวณท่าเรือหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ต้องตกใจสุดขีดเมื่อพบร่างผู้เสียชีวิตในสภาพขึ้นอืดลอยมาติดอยู่กับใบพัดหางเรือประมงที่จอดอยู่ริมคลอง โดยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบบาดแผลจากการถูกทำร้าย และคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 วัน ขณะที่การตรวจสอบเอกสารและอัตลักษณ์ไม่พบว่าเป็นคนในพื้นที่หรือชาวประมง เร่งส่งศพชันสูตรเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป

เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 14 พฤษภาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองจันทบุรี นำโดย พ.ต.ท.จักรกฤต แสงจันทร์ สารวัตรสอบสวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน แพทย์นิติเวชจากโรงพยาบาลพระปกเกล้า และกำลังอาสาสมัครกู้ภัยสว่างกตัญญูจันทบุรี ได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านว่าพบศพผู้เสียชีวิตลอยน้ำ จึงเร่งรัดเดินทางไปตรวจสอบบริเวณท่าเรือหนองบัว ตำบลหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ซึ่งอยู่ด้านหลังตลาดขนมแปลกหนองบัว

ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย อยู่ในสภาพขึ้นอืดลอยหงายท้องอยู่ในลำคลอง แขนข้างขวาลอยคล้องเกาะติดอยู่กับหางเสือของเรือประมงลำหนึ่งที่จอดลอยลำอยู่ใกล้กับท่าน้ำ ด้วยสภาพศพที่ขึ้นอืด ทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้วิธีใช้เชือกคล้องที่มือของศพ เพื่อค่อยๆ เคลื่อนย้ายนำร่างขึ้นมาบนฝั่งบริเวณบันไดทางขึ้นท่าน้ำอย่างระมัดระวัง ท่ามกลางไทยมุงที่มาเฝ้าสังเกตการณ์ด้วยความตกใจ

จากการร่วมกันตรวจชันสูตรเบื้องต้นโดยแพทย์นิติเวชและเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบผู้เสียชีวิตเป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน กางเกงขายาวสีครีม และสวมถุงเท้าที่ขาทั้งสองข้าง ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบเอกสารทางราชการที่สามารถระบุตัวตนของผู้ตายได้ อย่างไรก็ตาม พบมีร่องรอยการสักที่บริเวณข้อเท้าด้านซ้าย และมีรอยสักเป็นรูปอักษรอักขระอยู่บริเวณกลางแผ่นหลัง สภาพศพโดยรวมไม่พบบาดแผลที่บ่งชี้ว่าถูกทำร้ายด้วยของแข็งหรือของมีคมแต่อย่างใด และจากสภาพการขึ้นอืดของศพ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 วัน

นายสมชาย (นามสมมติ) ชาวบ้านในพื้นที่ผู้พบศพเป็นคนแรก เล่าด้วยอาการตกใจว่า ในช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาตนได้ออกมาเดินเล่นที่ท่าเรือแห่งนี้ตามปกติ ซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวัน เมื่อมองออกไปในคลองก็เห็นวัตถุลอยน้ำขนาดใหญ่ในลักษณะคล้ายกับกอวัชพืชหรือกองขยะลอยมาติดอยู่กับหางเรือประมง ด้วยความสงสัยจึงเข้าไปดูใกล้ๆ และต้องตกใจแทบช็อก เมื่อพบว่าสิ่งที่เห็นคือร่างของมนุษย์ที่เสียชีวิตอยู่ในสภาพน่าสะพรึงกลัว จึงรีบแจ้งอดีตสมาชิกสภาเทศบาล (สท.) ในพื้นที่ให้ช่วยประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบโดยเร็วที่สุด

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สังเกตรูปร่างลักษณะ การแต่งกาย รวมถึงร่องรอยการสัก ซึ่งดูแล้วไม่เหมือนกับชาวประมง หรือชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่แต่อย่างใด ทำให้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าผู้ตายเป็นใครและมาจากที่ไหน สำหรับสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด ยังคงอยู่ในระหว่างการตรวจสอบและสอบสวนอย่างละเอียด เจ้าหน้าที่ได้มอบหมายให้อาสาสมัครกู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตส่งไปชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลพระปกเกล้า เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง พร้อมทั้งเร่งติดตามหาเบาะแสและข้อมูลจากผู้ที่อาจจะรู้จักผู้ตาย หรือญาติของผู้เสียชีวิต เพื่อนำมาประกอบการสรุปสาเหตุของการเสียชีวิตในครั้งนี้ต่อไป