เพชรบูรณ์ – จากกรณีที่เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับพฤติกรรมการขับขี่รถยนต์บนถนนทางขึ้นเขาภูทับเบิก อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งปรากฏในคลิปวิดีโอที่มีการเผยแพร่โดยผู้ใช้ TikTok รายหนึ่ง แสดงภาพรถยนต์สปอร์ตหรูยี่ห้อ BMW รุ่น Z4 สีขาว กำลังขับเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงในลักษณะดริฟต์ จนท้ายรถปัดหวาดเสียวใกล้ขอบทาง สร้างความตกใจและกังวลให้กับผู้ที่ได้ชม

คลิปดังกล่าวถูกโพสต์เมื่อวันที่ 23 เมษายน ที่ผ่านมา โดยผู้ใช้ TikTok ชื่อ “lolono.re” หรือ “เหลือแค่300” พร้อมข้อความระบุว่า “โหดเกิน #เพชรบูรณ์ #ภูทับเบิก” ในคลิปยังปรากฏภาพบุคคลซึ่งคาดว่าเป็นการจัดฉากถ่ายทำ โดยมีผู้ยืนอยู่บริเวณด้านนอกรถเพื่อบันทึกภาพการขับขี่ดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าเป็นการกระทำที่มีเจตนาเพื่อนำไปเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย

ภายหลังคลิปวิดีโอนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ได้มีชาวสังคมออนไลน์จำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย บ้างก็ชื่นชมทักษะการขับขี่ของผู้ขับขี่รายนี้ แต่ส่วนใหญ่แสดงความเป็นห่วงและตำหนิถึงความประมาท เนื่องจากเป็นการกระทำบนถนนสาธารณะ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ร่วมใช้เส้นทางรายอื่น ๆ ได้อย่างร้ายแรง โดยผู้โพสต์คลิประบุเบื้องต้นว่าเป็นชาวต่างชาติ อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีรายงานว่าคลิปดังกล่าวได้ถูกลบออกจากบัญชีผู้ใช้ TikTok ต้นทางแล้ว

เกี่ยวกับเรื่องนี้ พันตำรวจเอก ธีรศักดิ์ สารภูษิตสันต์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับทราบถึงคลิปวิดีโอดังกล่าวแล้ว และไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้ดำเนินการตรวจสอบเบื้องต้นจนทราบข้อมูลว่า รถยนต์คันที่ปรากฏในคลิปเป็นรถยนต์ยี่ห้อ BMW รุ่น Z4 สีขาว หมายเลขทะเบียน 4ขด 8321 กรุงเทพมหานคร

พันตำรวจเอก ธีรศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า พฤติการณ์ในการขับขี่รถคันดังกล่าว ซึ่งเป็นการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงจนเกิดอาการท้ายปัด และมีการถ่ายวิดีโอจากมุมกล้องที่จัดวางไว้ล่วงหน้า ชี้ให้เห็นว่าเป็นการขับขี่ในลักษณะ “โชว์” หรือ “บันทึกเพื่อเผยแพร่” ซึ่งเข้าข่ายเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่นได้

ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หล่มเก่า อยู่ระหว่างขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ บริเวณเส้นทางขึ้นภูทับเบิก รวมถึงจะเร่งประสานงานไปยังกรมการขนส่งทางบก เพื่อขอข้อมูลรายละเอียดของเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าว จากนั้นจะออกหมายเรียกหรือเชิญตัวเจ้าของรถ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่ในครั้งนี้ เข้ามาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน เพื่อพิจารณาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.