กรุงเทพฯ – เมื่อเวลาประมาณ 02.30 น. ของวันที่ 28 เมษายน 2568 เกิดเหตุอุกอาจ คนร้ายขับรถยนต์ใช้อาวุธปืนยิงถล่มและใช้ไม้เบสบอลทุบทำลายรถยนต์หรู ยี่ห้อบีเอ็มดับบลิว ซึ่งจอดอยู่บริเวณริมถนนนาคนิวาส ระหว่างคอนโดมิเนียมสองแห่ง ในพื้นที่แขวง/เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร สร้างความตกใจให้กับผู้พบเห็น

เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลโชคชัย นำโดย พ.ต.อ.พรทวี สมวงศ์ ผู้กำกับการ, พ.ต.ท.พลกฤต ทิพยทัศนัน รองผู้กำกับการฝ่ายป้องกันปราบปราม และ พ.ต.ท.ไพศร อู่ข้าวอู่น้ำ สารวัตรป้องกันปราบปราม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สายตรวจ ได้รับแจ้งเหตุและเร่งรัดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที พบรถยนต์ ยี่ห้อบีเอ็มดับบลิว รุ่น 320i สีดำ หมายเลขทะเบียน 5ขอ7297 กรุงเทพมหานคร ของนายศักดาพล (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นผู้เสียหาย จอดอยู่ในสภาพถูกยิงเข้าที่กระจกหลายจุด และมีร่องรอยการถูกทุบทำลายบริเวณตัวรถและไฟท้ายด้านขวาอย่างรุนแรง

จากการสอบถามนายศักดาพล ผู้เสียหาย ให้การว่า ได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวมาจอดไว้ที่บริเวณดังกล่าวเมื่อเวลาประมาณ 02.10 น. ก่อนจะเดินขึ้นไปพักที่คอนโดมิเนียม อาคารบี ซึ่งอยู่ใกล้เคียง กระทั่งเวลาประมาณ 02.30 น. จึงได้ลงมาพบว่ารถยนต์ของตนถูกทำลายได้รับความเสียหายตามที่เห็น ซึ่งตนยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่องบาดหมางหรือเป็นศัตรูกับใครมาก่อน จึงรู้สึกงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก

ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ได้เข้าทำการตรวจสอบอย่างละเอียด พบหลักฐานสำคัญเป็นปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่บริเวณโดยรอบรถจำนวน 6 นัด เป็นปลอกกระสุนที่ใช้แล้ว 3 นัด และยังไม่ได้ใช้งานอีก 3 นัด ซึ่งเป็นหลักฐานบ่งชี้ว่าคนร้ายมีการใช้อาวุธปืนในการก่อเหตุจริง

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้สอบถามพยานผู้เห็นเหตุการณ์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของคอนโดมิเนียม ให้ข้อมูลว่า ขณะที่ผู้เสียหายกำลังเดินขึ้นคอนโดพร้อมกับชายอีกคน ไม่นานนักได้มีรถยนต์ ยี่ห้อ นิสสัน สีเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับเข้ามาจอดเทียบข้างรถบีเอ็มดับบลิวคันเกิดเหตุ จากนั้นคนร้ายที่อยู่ในรถคันดังกล่าวได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่กระจกรถบีเอ็มดับบลิวหลายนัดอย่างอุกอาจ ก่อนจะขับรถกลับลำ แล้วลงมาจากรถ ใช้ไม้เบสบอลกระหน่ำทุบตีเข้าที่กระจกฝั่งขวาและไฟท้ายด้านขวาของรถอย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะรีบขึ้นรถขับหลบหนีไปทางแยกโรงไม้

ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจนครบาลโชคชัย กำลังเร่งรัดตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี รวมถึงสอบปากคำพยานแวดล้อมเพิ่มเติม เพื่อแกะรอยติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้โดยเร็วที่สุด โดยเบื้องต้นคาดว่าสาเหตุอาจมาจากความขัดแย้งส่วนตัว หรือปัญหาอื่น ๆ ที่ผู้เสียหายอาจยังไม่ทราบ แต่ก็ยังไม่ตัดประเด็นอื่นทิ้งไปทั้งหมด

เหตุการณ์นี้ถือเป็นอุทาหรณ์เกี่ยวกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน แม้จะจอดรถในบริเวณที่มีผู้คนพลุกพล่านหรือหน้าอาคารที่พักอาศัยก็ตาม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าจะเร่งคลี่คลายคดีนี้ให้ได้โดยเร็วที่สุดเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่ต่อไป