กรุงเทพมหานคร (กทม.) อัปเดตตัวเลขผู้ประสบเหตุจากกรณีอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ ถล่ม ล่าสุดปรับยอดเพิ่มเป็น 109 ราย หลังมีญาติผู้สูญหายมาแจ้งข้อมูลเพิ่มเติม ยืนยันยอดผู้เสียชีวิตแล้ว 86 ราย ขณะที่การค้นหาเพื่อนำร่างและชิ้นส่วนที่เหลืออยู่ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้

เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2568 ที่กองอำนวยการร่วม บริเวณสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ (สน.บางซื่อ) ได้มีการประชุมติดตามความคืบหน้าสถานการณ์เหตุการณ์อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่ม โดยมีคณะทำงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง นำโดย รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม., พ.ต.อ.หญิงวันเพ็ญ ด้วงปั้น ผู้กำกับการกลุ่มงานพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล กองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, และ พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผู้กำกับการ สน.บางซื่อ

รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยถึงการปรับปรุงข้อมูลผู้ประสบเหตุว่า จากเดิมที่มีผู้ประสบเหตุซึ่งญาติได้แจ้งความตามหาบุคคลสูญหายไว้ที่ สน.บางซื่อ จำนวน 103 ราย ล่าสุด ได้มีญาติของผู้สูญหายเข้ามาแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งภายหลังที่พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ได้ทำการสอบสวนและยืนยันข้อมูลเบื้องต้นแล้ว พบว่ามีผู้ที่เข้าข่ายเพิ่มเติมอีก 6 ราย

ส่งผลให้ทางกองอำนวยการร่วมฯ ขอชี้แจงและประกาศตัวเลขผู้ประสบเหตุอย่างเป็นทางการ ณ วันที่ 4 พฤษภาคม 2568 ดังนี้:

• จำนวนผู้ประสบเหตุทั้งหมด: 109 ราย
• ผู้เสียชีวิต (ที่ได้รับการยืนยันแล้ว): 86 ราย
• ผู้บาดเจ็บ (ตัวเลขคงที่): 9 ราย
• ผู้ที่อยู่ระหว่างการติดตามและค้นหา: 14 ราย

รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อมีการปรับยอดผู้ประสบเหตุ ทีมค้นหาจะยังคงดำเนินการเปิดพื้นที่ซากอาคาร สตง. ทั้งหมดอย่างละเอียด เพื่อค้นหาร่างและชิ้นส่วนอวัยวะที่อาจยังคงติดค้างอยู่ ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่และไม่ให้มีสิ่งใดตกหล่น เนื่องจากขณะนี้ยังมีชิ้นส่วนอวัยวะที่รอการตรวจพิสูจน์อีกประมาณ 280 ชิ้น ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการยืนยันตัวบุคคล คาดว่ากระบวนการค้นหาและกู้ภัยในพื้นที่ทั้งหมดจะเสร็จสิ้นได้ภายในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้

ด้านความคืบหน้าในการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล พ.ต.อ.หญิงวันเพ็ญ ด้วงปั้น ผกก.กลุ่มงานพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล กองพิสูจน์หลักฐาน กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอจากญาติสายตรงของผู้สูญหายและผู้เสียชีวิตไปแล้วรวม 100 ราย เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับตัวอย่างจากร่างผู้เสียชีวิตและชิ้นส่วนที่พบ

สถาบันนิติเวชวิทยา สามารถตรวจพิสูจน์ยืนยันร่างผู้เสียชีวิตได้แล้วทั้งสิ้น 86 ราย ในจำนวนนี้ เป็นร่างผู้เสียชีวิตที่สมบูรณ์ จำนวน 78 ราย และเป็นชิ้นส่วนอวัยวะที่ได้ทำการตรวจพิสูจน์แล้วตรงกับบุคคลแล้ว จำนวน 8 ราย

สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด 86 รายนี้ ได้รับการพิสูจน์ยืนยันตัวบุคคลว่าเป็นใครแล้วทั้งสิ้น 63 ราย ซึ่งประกอบด้วยผู้เสียชีวิตสัญชาติไทย 46 ราย, สัญชาติเมียนมา 15 ราย, สัญชาติกัมพูชา 1 ราย และสัญชาติลาว 1 ราย

เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายยังคงทำงานอย่างเต็มที่เพื่อเร่งรัดกระบวนการทั้งหมด ทั้งการค้นหา การกู้ภัย และการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล เพื่อให้สามารถคืนร่างผู้เสียชีวิตให้กับญาติมิตรได้อย่างครบถ้วนและรวดเร็วที่สุด.