บิ๊กเน เนวิน เปิดใจ ทำไมต้อง “ทิ้ง” ACL ชี้ชัดแชมป์ไทยลีกสำคัญกว่าเพื่ออนาคตสโมสร
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ไทยลีกสมัยที่ 10 และเป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกันได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ สโมสรต้องเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์กรณีตัดสินใจส่งผู้เล่นชุดผสมลงสนามในศึก เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก อีลิต (ACL) รอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย เพื่อเก็บตัวหลักไว้สำหรับนัดชิงแชมป์ไทยลีก
ล่าสุด “บิ๊กเน” นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ออกมาเปิดใจถึงเบื้องหลังการตัดสินใจดังกล่าว โดยยอมรับว่าส่วนตัวแล้วรู้สึก “สอบตก” เนื่องจากเป้าหมายเดิมคือต้องการคว้าแชมป์ไทยลีกให้ได้ก่อนที่จะเดินทางไปแข่งขัน ACL ที่ซาอุดีอาระเบีย แต่ด้วยความผิดพลาดในการวางแผน สภาพความพร้อมของนักกีฬา และผลการแข่งขัน ทำให้สถานการณ์ต้องมาตัดสินแชมป์กันถึงนัดสุดท้าย
นายเนวิน กล่าวว่า เข้าใจความรู้สึกของแฟนบอลไทยและแฟนบอลบุรีรัมย์บางส่วนที่อาจไม่พอใจกับการตัดสินใจดังกล่าว “ผมก็พูดตรงๆว่าเรารู้ดีว่า การที่ไปถึงรอบ 16 ทีม ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว และการที่เราไปรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้ มาเจอกับสภาพของความไม่พร้อม ที่เรายังไม่สามารถปิดจ็อบในไทยลีกได้ จึงจำเป็นต้องปรับไปตามแผน ก็ต้องพูดตรงๆครับว่า มันต้องตัดสินใจแบบนี้ ทั้งในแง่ของผลการแข่งขัน และในแง่ของเกียรติประวัติของสโมสร รวมถึงรายได้ และอนาคตของสโมสร ผมต้องตัดสินใจเพื่ออนาคตของสโมสร”
ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ย้ำว่า การคว้าแชมป์ไทยลีกมีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออนาคตของสโมสร “ถ้าเราไม่ได้แชมป์ไทยลีก เราต้องไปเพลย์ออฟ และก็ไม่รู้จะได้เล่น เอซีแอล อีลิต อีกหรือเปล่า เดิมทีประวัติศาสตร์ที่นักฟุตบอลทุกคนตั้งเป้าหมายคือ เราจะเป็นแชมป์สมัยที่ 10 และจะเป็นแชมป์ 4 สมัยติดต่อกัน และปัจจัยสำคัญคือ ถ้าเราเป็นแชมป์ เราจะวางแผนตัวผู้เล่นฤดูกาลหน้า สำหรับเอซีแอล ชอปปี้คัพ และไทยลีก ดีกว่าที่เราไม่ได้แชมป์ไทยลีก”
นายเนวิน ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างด้านรายได้ระหว่างการเป็นแชมป์ไทยลีกกับการได้เล่น ACL รอบแบ่งกลุ่ม “ผมต้องบอกกับทุกทีมนะครับว่า การเป็นแชมป์ไทยลีก แม้จะได้เงินรางวัลแค่ 10 ล้าน แต่การได้เล่นในเอซีแอล รอบแบ่งกลุ่ม มันได้อีก 8 แสนเหรียญสหรัฐฯ เท่ากับว่าจะมีรายได้ประมาณ 40-50 ล้านในการเตรียมผู้เล่น เพื่อต่อสู้ในประเทศไทย และต่างประเทศ เพราะฉะนั้นการตัดสินใจทุกอย่างมันมีเหตุและมันมีผล”
นอกจากนี้ “บิ๊กเน” ยังยอมรับว่าฤดูกาลนี้ทีมต้องลงเล่นจำนวนแมตช์มากที่สุดเท่าที่เคยทำสโมสรมา และการจะไปถึงเป้าหมาย 5 ถ้วย ด้วยทีมที่มีอยู่ ยังถือว่าขนาดทีมยังเล็กไป ปีหน้าจำเป็นต้องเสริมทัพให้ใหญ่กว่าเดิม มีผู้เล่นประมาณ 30 คนที่สามารถทดแทนกันได้โดยคุณภาพไม่ตกลง เพื่อรองรับการแข่งขันในทุกรายการ
สำหรับประเด็นการเผชิญหน้ากับ อัล อาห์ลี ใน ACL รอบ 8 ทีมสุดท้าย นายเนวิน ยอมรับตามตรงว่า แม้จะส่งผู้เล่นชุดใหญ่ไปก็ยังเชื่อว่ายากที่จะเอาชนะได้ เนื่องจากคุณภาพนักเตะและงบประมาณมีความแตกต่างกันมหาศาล “ผู้เล่นของเขามูลค่า 6-7 พันล้าน ของเรา 4-5 ร้อยล้าน เราต้องยอมรับความจริง และอยู่กับมันให้ได้”
ท้ายที่สุด “บิ๊กเน” เนวิน ชิดชอบ ขอบคุณสำหรับคำวิจารณ์ของแฟนบอล และยืนยันว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะกลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิมในปีหน้า โดยจะนำบทเรียนที่ได้ไปปรับปรุงแก้ไข เพื่อยกระดับทีมให้สมบูรณ์และมั่นคงยิ่งขึ้น เป้าหมายยังคงเป็นการลุ้นแชมป์ทุกรายการในประเทศ และทำผลงานให้ดีในระดับเอเชียต่อไป