“บิ๊กเอ” ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ ยืนยันการเลือกตั้งประธานโอลิมปิกไทยครั้งล่าสุดเป็นไปอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม หลังมีผู้ร้องเรียนไปยังคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) พร้อมเผยเตรียมเดินหน้าปรับเบี้ยเลี้ยงนักกีฬาและเงินรางวัลซีเกมส์เป็นนโยบายแรก

ภายหลังการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 ของคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ เมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา ที่ประชุมได้เลือก “บิ๊กเอ” ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ คนใหม่ ซึ่งถือเป็นประธานโอลิมปิกไทยคนที่ 8 และเป็นคนแรกในรอบ 60 ปี ที่มาจาก “พลเรือน”

ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 เมษายน ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา “บิ๊กเอ” ได้แถลงข่าวชี้แจงกรณีที่มีการร้องเรียนไปยังไอโอซีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการเลือกตั้ง โดยระบุว่า “เมื่อมีข้อกังขา มีข้อร้องเรียนว่าการเลือกตั้งถูกต้องมั้ย เป็นธรรมมั้ย ทุกคนที่เกี่ยวข้องก็มีสิทธิร้องเรียน ซึ่งก็เกิดขึ้น และเมื่อร้องเรียนมา เราก็ได้ทำจดหมายอธิบายความไปยังไอโอซีว่าเกิดอะไรขึ้นในวันเลือกตั้ง”

ประธานโอลิมปิกไทยกล่าวต่อว่า “วันนี้อย่างน้อยทางผู้บริหารไอโอซี ก็ได้ทำจดหมายมาแล้ว เขาก็บอกว่าเข้าใจแล้วที่ทางเราได้เคลียร์มา เขาเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงการเลือกตั้งประธานโอลิมปิกไทย” พร้อมยืนยันว่าไอโอซีแสดงความพร้อมที่จะทำงานร่วมกับโอลิมปิกไทยอย่างใกล้ชิด

สำหรับแผนงานในอนาคต “บิ๊กเอ” เปิดเผยว่าจะมีการประชุมคณะกรรมการโอลิมปิกฯ ครั้งแรกในวันที่ 23 เมษายนนี้ โดยนโยบายแรกที่จะดำเนินการคือการปรับเพิ่มเบี้ยเลี้ยงนักกีฬาและเงินรางวัลซีเกมส์ เนื่องจากเบี้ยเลี้ยงนักกีฬาในปัจจุบันยังคงอยู่ที่ 600 บาทสำหรับค่าอาหารและ 300 บาทสำหรับเบี้ยเลี้ยง ซึ่งไม่มีการปรับขึ้นมานานกว่า 15-16 ปีแล้ว

“เบื้องต้นได้หารือด้วยวาจากับรัฐมนตรีท่องเที่ยวและกีฬาไปบ้างแล้ว แต่ก็จะทำเอกสารอย่างเป็นทางการ เพราะตอนหารือกันนั้น ยังไม่ได้รับตำแหน่งประธานโอลิมปิกไทยอย่างเป็นทางการ” ผศ.พิมลกล่าว พร้อมย้ำว่า “มันไม่ได้เป็นแค่เรื่องของเงินที่จะได้เยอะขึ้น แต่ว่าเป็นเรื่องของความชอบธรรมต่อตัวนักกีฬาเป็นสำคัญ”