ไวรัล! ทัวริสต์เบลเยียมหัวร้อน พังร้านสะดวกซื้อพัทยายับเยิน ยอมจ่าย 3.5 หมื่น จบคดี

ไวรัล! ทัวริสต์เบลเยียมหัวร้อน พังร้านสะดวกซื้อพัทยายับเยิน ยอมจ่าย 3.5 หมื่น จบคดี

เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี – เกิดเหตุการณ์สร้างความตกตะลึงในร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งย่านพัทยาใต้ เมื่อนักท่องเที่ยวชาวเบลเยียมรายหนึ่งก่อเหตุทำลายข้าวของภายในร้านจนได้รับความเสียหายจำนวนมาก โดยเฉพาะขวดไวน์นับสิบขวดที่ถูกปัดตกแตกกระจายพื้น เหตุการณ์ดังกล่าวถูกบันทึกภาพไว้ได้และกลายเป็นกระแสไวรัลในโซเชียลมีเดีย ล่าสุด รายงานข่าวระบุว่า นักท่องเที่ยวคนดังกล่าวได้ตกลงชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 35,000 บาท เพื่อยุติเรื่องแล้ว

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา ประมาณเวลา 04.00 น. ภายในร้านสะดวกซื้อสาขาหนึ่งในพื้นที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี โดยภาพจากคลิปวิดีโอที่ถูกเผยแพร่ผ่านทางบัญชีผู้ใช้ TikTok ชื่อ @Mrbochkarev และกลายเป็นกระแสไวรัลอย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นชายชาวต่างชาติรูปร่างท้วม คาดว่าเป็นชาวเบลเยียม อายุประมาณ 25 ปี มีท่าทีหัวเสียอย่างเห็นได้ชัด

จากภาพในคลิป ชายคนดังกล่าวเริ่มจากการเดินไปที่เคาน์เตอร์ชำระเงิน ก่อนจะเทเครื่องดื่มน้ำอัดลมที่ถือมา ราดใส่ศีรษะของตนเองอย่างไม่ทราบสาเหตุ สร้างความงุนงงให้กับพนักงานที่ประจำการอยู่ในร้าน จากนั้นเขาก็เดินไปตามชั้นวางสินค้าประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และใช้มือปัดขวดไวน์ที่วางเรียงรายอยู่บนชั้น จนขวดไวน์จำนวนมากร่วงหล่นลงมากระแทกพื้นแตกกระจายเกลื่อนไปทั่วบริเวณ

รายงานระบุว่า มีขวดไวน์ที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำของนักท่องเที่ยวรายนี้ไม่ต่ำกว่า 10 ขวด ทำให้พื้นร้านเต็มไปด้วยเศษแก้วที่แตกละเอียดและคราบไวน์ที่หกเรี่ยราด สร้างความเสียหายและอันตรายให้กับพนักงานและผู้ที่อาจเข้ามาใช้บริการในร้านในเวลาต่อมา เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้พนักงานในร้านต่างพากันตกใจและหวาดกลัวกับพฤติกรรมรุนแรงที่ไม่คาดคิดของนักท่องเที่ยวคนดังกล่าว

หลังเกิดเหตุ ทางร้านสะดวกซื้อได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา เพื่อดำเนินคดีกับนักท่องเที่ยวชาวเบลเยียมในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีรายงานว่า นักท่องเที่ยวรายนี้ได้แสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง และได้เดินทางเข้าเจรจาไกล่เกลี่ยกับตัวแทนของร้านสะดวกซื้อ โดยผลการเจรจาตกลงให้นักท่องเที่ยวชาวเบลเยียมคนดังกล่าวชดใช้ค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 35,000 บาท (คิดเป็นเงินประมาณ 1,050 ดอลลาร์สหรัฐฯ) เพื่อเป็นการเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น และเป็นอันสิ้นสุดข้อพิพาท โดยไม่มีการดำเนินคดีทางอาญาต่อไป

เหตุการณ์นี้นับเป็นอีกหนึ่งบทเรียนที่สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวบางกลุ่มที่อาจก่อให้เกิดปัญหาในพื้นที่ท่องเที่ยว และความสำคัญของการรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเองเมื่อเกิดความเสียหายขึ้น.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *