ปักกิ่ง, จีน – เกิดเหตุการณ์ระทึกขวัญขึ้นในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อรถยนต์คันหนึ่งได้พุ่งเข้าใส่กลุ่มคนบริเวณด้านนอกโรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่งในเขตไห่เตียน เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา ตามรายงานของสำนักข่าวต่างประเทศ

ล่าสุด (วันที่ 16 พฤษภาคม) ตำรวจจราจรกรุงปักกิ่งได้ออกมายืนยันว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้จำนวน 4 ราย โดยระบุว่ารถยนต์นั่งขนาดเล็กได้ “เฉี่ยวชน” กับกลุ่มคนเดินเท้าในเขตไห่เตียน อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจยังไม่ได้ชี้ชัดว่าเหตุการณ์นี้เป็นอุบัติเหตุหรือเป็นการกระทำโดยเจตนาแต่อย่างใด

แหล่งข่าวระบุว่า คนขับรถคันที่ก่อเหตุได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไว้ได้แล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุและแรงจูงใจที่แท้จริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

เหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นในประเทศจีน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีรายงานเหตุการณ์รถยนต์พุ่งชนผู้คนในที่สาธารณะและบริเวณใกล้โรงเรียนเกิดขึ้นหลายครั้ง ทำให้โรงเรียนหลายแห่งทั่วประเทศจีน ซึ่งมีระบบการเฝ้าระวังอยู่แล้ว ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวดยิ่งขึ้น ตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นมา โดยมีการเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและเสริมความแข็งแรงของประตูทางเข้า

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567 เคยเกิดเหตุการณ์สะเทือนใจเมื่อรถยนต์อเนกประสงค์ (SUV) พุ่งชนนักเรียนและผู้คนที่สัญจรไปมาบริเวณหน้าโรงเรียนประถมในเมืองฉางเต๋อ มณฑลหูหนาน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก

ก่อนหน้านั้นเพียงหนึ่งสัปดาห์ ก็เกิดเหตุการณ์ที่รุนแรงยิ่งกว่า เมื่อชายวัย 62 ปี ได้ขับรถพุ่งเข้าใส่กลุ่มคนในศูนย์กีฬาเมืองจูไห่ ทางตอนใต้ของประเทศ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 38 ราย และบาดเจ็บเกือบ 50 ราย โดยผู้ก่อเหตุให้การภายหลังว่าสาเหตุมาจากความคับแค้นใจที่ต้องแบ่งทรัพย์สินให้กับอดีตภรรยาหลังการหย่าร้าง ซึ่งต่อมาในเดือนมกราคม 2568 ผู้ก่อเหตุรายนี้ได้ถูกทางการจีนประหารชีวิต

เหตุการณ์ล่าสุดที่ปักกิ่งตอกย้ำถึงความท้าทายด้านความปลอดภัยในพื้นที่สาธารณะของจีน โดยเฉพาะบริเวณที่มีผู้คนหนาแน่นอย่างหน้าโรงเรียน ขณะนี้ทุกฝ่ายกำลังจับตาการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อคลี่คลายปริศนาว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเพียงอุบัติเหตุร้ายแรง หรือเป็นการจงใจก่อเหตุสะเทือนขวัญอีกครั้ง