BCPG แจงผลงาน Q1/68 กำไรลดลง เหตุปัจจัยพิเศษและขายสินทรัพย์ แต่แย้มครึ่งปีหลังฟื้นตัว รับไฮซีซันและโครงการใหม่หนุน
บีซีพีจี เผยผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 กำไรสุทธิ 152.6 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เหตุรายได้ส่วนเพิ่ม (Adder) ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในไทยหมดลง และมีการจำหน่ายโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่นออกไป พร้อมรับรู้รายการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน แต่คาดการณ์ผลงานครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวแข็งแกร่ง จากปัจจัยหนุนหลายด้าน ทั้งไฮซีซันของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ และการเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ของโครงการใหญ่ ทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานลมมอนซูนใน สปป.ลาว และการเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนาม
นายรวี บุญสินสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) (BCPG) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทในไตรมาส 1 ปี 2568 ว่า มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติอยู่ที่ 197.8 ล้านบาท ซึ่งลดลง 42.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยหลักมาจากการสิ้นสุดมาตรการส่งเสริมการขายไฟฟ้าแบบ Adder Tariff สำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย และการจำหน่ายโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บางส่วนในประเทศญี่ปุ่น
ทั้งนี้ หากรวมรายการพิเศษที่เกิดขึ้น เช่น รายการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน และรายการพิเศษจากการเปลี่ยนแทนอุปกรณ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ทำให้ตัวเลขกำไรสุทธิในไตรมาส 1 ปี 2568 อยู่ที่ 152.6 ล้านบาท ขณะที่บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น 730.9 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บีซีพีจีมองแนวโน้มผลประกอบการในครึ่งปีหลังของปี 2568 ว่าจะมีการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากโครงการต่างๆ ที่กำลังจะสร้างรายได้และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้า
โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป. ลาว ซึ่งจะเข้าสู่ช่วงฤดูกาลที่มีปริมาณน้ำมากขึ้น ทำให้สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ในปริมาณสูงขึ้น นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติที่สหรัฐอเมริกา จะได้รับค่าความพร้อมจ่ายไฟ (Capacity Revenue) เพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับรายได้อีกทางหนึ่ง
โครงการไฮไลท์สำคัญที่คาดว่าจะส่งผลบวกอย่างมากต่อผลประกอบการในครึ่งปีหลัง คือ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมมอนซูน กำลังการผลิต 600 เมกะวัตต์ ใน สปป.ลาว ซึ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ขณะนี้โครงการมีความพร้อมอย่างเต็มที่และคาดว่าจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) เต็มกำลังการผลิตได้ตามแผน
นอกจากนี้ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม กำลังการผลิตติดตั้งรวม 99 เมกะวัตต์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินการเข้าซื้อกิจการ คาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถรับรู้รายได้เข้ามาในครึ่งปีหลังของปีนี้เช่นเดียวกัน การรับรู้รายได้จากสองโครงการพลังงานลมขนาดใหญ่ใน สปป.ลาว และเวียดนามนี้เองจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้ผลประกอบการของบีซีพีจีในครึ่งปีหลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง