แบงก์ชาติส่งสัญญาณเตือน! จี้รัฐบาลทดลองออก ‘G-Token’ ในวงจำกัด ก่อนลุยจริง ชี้ต้องอยู่ภายใต้ กม.หลักทรัพย์ หวั่นระบบยังไม่เสถียร
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ส่งหนังสือแสดงความเห็นต่อแผนการออกโทเคนดิจิทัลภาครัฐ หรือ G-Token ของรัฐบาล โดยเสนอให้ดำเนินการในรูปแบบโครงการทดสอบในวงจำกัด (Pilot Project) ก่อนที่จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปลงทุนในวงกว้าง หวั่นระบบยังไม่เสถียร ไม่ปลอดภัย และอาจมีประเด็นด้านกฎหมายที่ต้องพิจารณาให้รอบคอบเทียบเท่าการออกพันธบัตรรัฐบาลปัจจุบัน
รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธปท. ได้ทำหนังสือถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรีตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2567 เพื่อให้ความเห็นต่อแนวทางการระดมทุนของภาครัฐด้วยการออก G-Token ก่อนหน้าที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) จะอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2567
สาระสำคัญในหนังสือของ ธปท. ระบุว่า การออก G-Token ถือเป็นวิธีการระดมทุนที่รัฐบาลอาจนำมาประยุกต์ใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกรรม ลดต้นทุน และเป็นทางเลือกใหม่ในการลงทุนและการออมของประชาชน ซึ่งมีลักษณะเทียบเคียงได้กับการออกพันธบัตรรัฐบาลในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ธปท. มีความเห็นว่า การนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ในการระดมทุนของรัฐบาล ควรทำเป็นโครงการทดสอบในวงจำกัด (Pilot Project) ก่อน เพื่อ:
- ทดสอบให้มั่นใจว่าระบบและกระบวนการที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่การเสนอขาย การจัดการทะเบียน การเก็บรักษา และการไถ่ถอน มีประสิทธิภาพ มั่นคง และปลอดภัย
- ประเมินความเสี่ยงได้อย่างรอบด้าน และสามารถปิดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างรัดกุม
- สร้างความมั่นใจก่อนที่จะนำไปใช้ระดมทุนจากประชาชนในวงกว้าง
นอกจากนี้ ธปท. ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับองค์ประกอบสำคัญอย่างน้อย 5 ประการ ที่ต้องคำนึงถึงในการออก G-Token ได้แก่:
- ระบบและกระบวนการต้องมีประสิทธิภาพและปลอดภัย: ต้องมีความเสถียร มั่นคง ได้มาตรฐานเทียบเท่าพันธบัตรรัฐบาล ผู้ให้บริการต้องน่าเชื่อถือ มีประสบการณ์ แก้ปัญหาได้ทันท่วงทีหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน เพื่อไม่ให้กระทบต่อความเชื่อมั่น
- อยู่ภายใต้กรอบกฎหมายที่เหมาะสม: G-Token มีลักษณะเป็นตราสารหนี้ภาครัฐ ควรอยู่ภายใต้ พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งกำลังมีการแก้ไขให้รองรับการออกหลักทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์ มากกว่า พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลฯ เพื่อความชัดเจนทางกฎหมายและคุ้มครองผู้ลงทุน
- เป็นไปตามกรอบวินัยการเงินการคลัง: ต้องนับเป็นการกู้เงินภายใต้กรอบวงเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ และแผนการบริหารหนี้สาธารณะตามกฎหมาย
- การบริหารจัดการต้องไม่มีขั้นตอนที่เป็นการสร้างเงิน: การจ่ายผลตอบแทนต้องมีเงินเต็มจำนวน (Fully Backed) รองรับ เช่นเดียวกับ Tokenized Green Bond ของรัฐบาลฮ่องกง ที่เตรียมเงินไว้เต็มจำนวนเพื่อจ่ายดอกเบี้ย
- มีวัตถุประสงค์เพื่อการระดมทุนและการออมเท่านั้น: ต้องไม่นำ G-Token มาใช้เป็นสื่อกลางในการชำระเงิน (Means of Payment: MOP) และต้องมีกลไกติดตามป้องกันการใช้ผิดวัตถุประสงค์
ธปท. ย้ำทิ้งท้ายว่า ปัจจุบันมีเพียงไม่กี่ประเทศทั่วโลกที่ออกโทเคนดิจิทัลเพื่อการระดมทุนภาครัฐ และส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับ Pilot Project ทั้งนี้ ระหว่างที่รัฐบาลดำเนินการทดสอบ ประชาชนยังคงสามารถลงทุนและออมผ่านพันธบัตรรัฐบาลในรูปแบบปัจจุบันได้ เช่น พันธบัตรออมทรัพย์ดิจิทัล “วอลเล็ต สะสมบอนด์มั่งคั่ง” ซึ่งซื้อขายได้สะดวกผ่าน Mobile application